ภายใน 5 ปี ทุกคนจะใช้ชีวิตใน METAVERSE อย่างน้อยวันละชั่วโมง

ทำความเข้าใจ Metaverse ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด ภายใน 5 ปีทุกคนจะได้ใช้ชีวิตในนี้อย่างน้อยวันละชั่วโมง

พอพูดคำว่า Metaverse หลายคนอาจจะรู้จักและได้เข้าไปอยู่ในนั้นบ้างแล้วแต่หลายคนอาจจะยังแค่เคยได้ยิน คุ้นหูเท่านั้น เราจะพามาทำความรู้จักว่า Metaverse จริง ๆ แล้วคืออะไรและใกล้ตัวเรามากแค่ไหน

คำว่า Metaverse ถูกสร้างขึ้นจากเรื่อง Snow Crash ปี 1992 ซึ่งเป็นนวนิยายแนวดิสโทเปีย ซึ่งในนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงในโลกดิจิตัลแบบ 3 มิติ ทั้งภาพและเสียงกลายเป็นพื้นที่ทางสังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้คนมาพูดคุย เจอกัน และทำกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ แบบออนไลน์

การเติบโตของ Metaverse มีกูเกิลเป็นเจ้าแรกที่ปลุกกระแสเมื่อปี 2013 ในตอนนั้นผ่าน Virtual reality ด้วยการซื้อ Ingress แอพฯ เกมที่ให้คนเล่นเดินรอบเมืองเพื่อหาพลังและให้ผู้เล่นแต่ละฝ่ายในพื้นที่นั้นร่วมมือกันยึดฐานอีกฝั่งมาเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นเกม MMO ที่คนทั้งโลกเล่นร่วมกันในเซิร์ฟเวอร์เดียว

ต่อมาปี 2014 Facebook ได้ซื้อ Oculus VR ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าที่ผลิต Rift หูฟังสำหรับเล่นเกมแล้วก็พัฒนา VR โดยที่ ไม่ได้เน้นที่การเล่นเกมเป็นหลักแล้วแต่ใช้ในเชิงสื่อสารในโลกเสมือนจริงที่ที่สร้างขึ้นมา ซึ่งพอมาถึงปี 2021 ก็ได้กลายเป็นปีที่มีแอพลิเคชันโลกเสมือนจริงเยอะขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับแว่นตา VR ที่ผลิตออกมาใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อทุกคนผ่านโลกออนไลน์แม้จะอยู่กันคนละพื้นที่โลก

ตลาดของโลกเสมือนจริงเติบโตเร็วมากในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาจากปี 2015 กว่า 25 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8 พันล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก แล้วในหลายประเทศรัฐบาลและมหาวิทยาลัยก็ต่างหันมาลงทุนทรัพยากร โดยทุ่มใช้จ่ายหลายร้อยดอลลาร์กับโครงการพัฒนาและวิจัยต่าง ๆ กับเทคโนโลยีนี้

ในเมื่อ Metaverse คือโลกเสมือนจริง คนอยู่ในนั้นก็ถูกเล่นโดยคนจริง ๆ อวตารที่อยู่ในนี้ มันจึงใกล้ตัวเรามากขึ้นเหมือนโลกออนไลน์โซเชียลมีเดียที่เรากำลังใช้กันอยู่ ตอนนี้ Metaverse กลายเป็นพื้นที่ทางสังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่ทุกคนกำลังเชื่อมต่อ พูดคุยกัน และนั่นรวมถึงการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันด้วย

อย่างที่เกิดขึ้นไปแล้วก็เป็นการใช้ Metaverse เพื่อสัมนา ประชุม จัดอีเวนต์ เปิดแกลเลอรี่ และจัดคอนเสิร์ต ในอนาคตเป็นไปได้สูงที่เราอาจจะได้แว่น VR คนละ 1 ชิ้นเพื่อให้สำหรับประชุม เรียนออนไลน์ใน Metaverse ได้อย่างที่บิลเกตส์ (ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์) คาดการณ์ไว้

ยิ่งไปกว่านั้นมาร์กซักเคอร์เบิร์ก (ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก) ก็ได้มองว่าในอนาคตอันใกล้นี้ Metaverse จะกลายเป็นทั้งสถานที่ทำงาน แหล่งช้อปปิ้ง ที่ชมกีฬา รวมถึงพื้นที่ที่จะทำให้สมาชิกแต่ละครอบครัวที่อยู่ต่างที่กันได้พบปะเจอหน้า สังสรรค์ กระชับความสัมพันธ์กันด้วย

เรื่องนี้ก็สอดคล้องกับงานศึกษาและการคาดการณ์ของ Gartner ด้วยที่ในอีก 4-5 ปี (ช่วงปี 2026) ผู้คนจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ต่อวันในการใช้ Metaverse กับทุกกิจกรรมในชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเรียน ทำงาน ช้อปปิ้ง เสพความบันเทิง ติดต่อเชิงธุรกิจ และเข้าสังคม

เทคโนโลยียังคงไปข้างหน้าไม่หยุด ในอนาคตโลกเสมือนอย่าง Metaverse และโลกในรูปแบบอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นอาจเข้ามาและเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเราไปเพื่อให้เราเรียนรู้และปรับตัวกันต่อ

 

อ้างอิง
https://bit.ly/3sOM7bu
https://gtnr.it/3sQb6ef

Related Posts