“พอรักกันแล้วเราก็อยากให้เธอเล่าเรื่องที่เธอไม่สบายใจให้เราฟังด้วย” Relationship 101 กุญแจสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ยืนยาว เพราะอะไรคนรักกันถึงควรแบ่งปันทั้งพาร์ทสุขและทุกข์
ในเมื่อการมีความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน แน่นอนว่าทั้งคู่มีชีวิตเป็นของตัวเองและมีเรื่องราว ประสบการณ์ที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกดีแต่ในหลาย ๆ ครั้งเวลาที่ต้องเจอเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่ กดดัน หรือเกิดความเครียด การเปิดเผยความรู้สึกด้าบลบให้กับอีกคนผ่านการเล่าให้ฟังก็ช่วยทำให้เรื่องหนักเบาลงได้และได้มอบพลังให้แก่กันด้วย
เราเข้าใจว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยาก บางทีเราอาจรู้สึกว่าไม่อยากเล่าให้อีกคนฟังเพราะว่าเป็นเรื่องหนักแล้วกลัวว่าเขาจะมาเครียดไปกับเราด้วย อยากให้ลองค่อย ๆ เปิดใจแล้วใช้ความกล้าในการค่อย ๆ เล่าให้กันฟังว่าเรากำลังเครียดหรือรู้สึกแย่เรื่องอะไร เกิดขึ้นได้ยังไง และเพราะใคร
ถ้าจุดเริ่มต้นด้วยเล่าเรื่องเลยอาจยังยากเกินไป ให้เริ่มต้นด้วยการลองบอกว่า “ตอนนี้เรามีเรื่องเครียดมาก เล่าให้ฟังได้มั้ย” ซึ่งอีกคนก็จะต้องตอบรับและรับฟังทั้งหมดโดยที่ไม่ตัดสิน มันคือการเปิดใจทั้งฟังคนเล่าและคนรับฟังโดยที่ไม่การตำหนิกันนะ และหากเราเป็นฝ่ายที่เห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของอีกคนก่อนเราก็ถามได้เหมือนกันว่า “วันนี้เป็นไงบ้าง มีอะไรที่อยากเล่าให้ฟังมั้ย เล่าได้นะ”
ผลของการที่เราแชร์กันในพาร์ทช่วงเวลาที่อยากลำบากด้วยผ่านการเล่าความคิดและความรู้สึกของตัวเองให้อีกคนฟัง การเปิดใจต่อกันมันเป็นประตูแรกที่หมายถึงการที่เรายอมรับความสึกตัวเอง ไปพร้อมกับการให้อีกคนได้เข้ามาทำความรู้จักเรามากขึ้น ซึ่งมันก็ส่งผลโดยตรงถึงความสนิทสนมและการมีความไว้ใจต่อกัน สุดท้ายหลังจากแบ่งปันเรื่องราวที่ได้สบายใจขึ้นมันก็อาจนำไปสู่การเป็นเพื่อคู่คิด การช่วยเหลือ วางแผนด้วยกันได้ หรือแม้แต่เติมพลังให้กันทั้งทางการพูดปลอบโยนและสกินชิพ
ยิ่งเปิดใจแชร์กัน ร่วมทั้งทุกข์และสุขด้วยกัน ไม่ใช่แค่ทำให้เราได้ยอมรับความรู้สึกและเข้าใจตัวเองมากขึ้น มันทำให้อีกคนยิ่งได้รู้จัก ได้เข้าใจกัน ได้รักกันมากขึ้น และมอบพลังให้กันด้วย