งานวิจัยชี้ Baby Talk ใช้เสียงสองคุยกันบ่อย ๆ ได้ผลดี สวีทขึ้น ช่วยให้รักมั่นคง
ทำไมหลายคู่ถึงใช้เสียงสอง เสียงสามคุยกัน แถมยังใช้สรรพนามแปลก ๆ เรียกแทนกันว่า บี๋ ไอต้าว ยูกหมา เตง ตะมุ ด้วยเสียงเล็ก ๆ ลากยาว ๆ อีก มันน่ารักยังไง ได้ประโยชน์ตรงไหน เรื่องนี้มีคำอธิบาย
การทำแบบนี้จริง ๆ เป็นเรื่องที่เราเจอตั้งแต่ตอนเราเป็นเด็กเล็กอยู่แล้ว ลองนึกเรามักจะเห็นผู้ใหญ่คุยกับเด็กเล็กด้วยเสียงสอง ซึ่งบางทีเราก็เป็น มันคือ ภาษาเด็กเล็ก (Baby Talk) เป็นน้ำเสียงที่เราคุ้ยเคยที่แม่หรือคนที่เลี้ยงเราใช้เวลาคุยกับเรา
ดีน ฟอล์ก (Dean Falk) นักประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาภาษามนุษย์ บอกว่าการใช้เสียงเล็ก เสียงแหลม ใช้สรรพนามแทนด้วยสิ่งน่ารัก เอ็นดู ช่วยเสริมการเรียนรู้ ทางด้านภาษาและอารมณ์ให้เราในตอนนั้น ทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดี ใกล้ชิด และปลอดภัย
ทีนี้พอเราโตขึ้นมาที่เราใช้เสียงสองเล็ก ๆ แหลม ๆ นุ่ม ๆ กับคนที่เรารักหรือคนสนิท ในทางจิตวิทยา การตั้งใจใช้น้ำเสียงแบบนี้มันทำให้อีกคนรู้สึกถึงความพิเศษ รู้สึกว่ามันเป็นความส่วนตัวของเราแค่สองคน มันเลยส่งผลดีต่อคนที่กำลังมีความสัมพันธ์กันอยู่ที่ทำให้รู้สึกว่าสนิทสนม หยอกล้อ ผูกพัน และสบายใจต่อกัน
นอกจากนี้ในงานศึกษาจากหนังสือ The Relationship Cure ของจอห์น เอ็ม ก็อตแมน (John Mordecai Gottman) ศาสตราจารย์จิตวิทยา มหาวิทยาลัยวอชิงตัน บอกว่าปกติพื้นฐานเรามีระบบอารมณ์อยู่ พอเป็นเรื่องการสื่อสาร พูดคุยกัน เลยทำให้เราสามารถรับรู้สารนั้นผ่านคำพูด (Word) ได้แค่ 7% แต่ที่เหลือที่ทำให้เราเข้าใจเนื้อหามาจากการรับรู้อารมณ์และน้ำเสียงที่อยู่ในนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารับรู้มากกว่าถึง 38% เลย
นี่ยังไม่รวมงานศึกษาที่เก็บข้อมูลเปรียบเทียบคู่รักแต่งงาน ระหว่างคู่ที่ใช้เสียงสองคุยกับกับคู่ที่คุยกันปกติ ธรรมดา ผลก็แตกต่างกันว่าคู่ที่ใช้เสียงสองคุยกันประสบความสำเร็จในความสัมพันธ์ ยอมรับกัน และเข้าใจอารมณ์กันมากกว่าด้วย นี่เลยทำให้เราเห็นว่าประโยชน์ของการใช้เบเบี้ทอล์คช่วยกระชับความพันธ์ได้ดีจริง ๆ
