เทสไม่ไปด้วยกัน ทำยังไงให้คบกันรอด

เราฟัง Arctic Monkeys เธอร้องจิ๊จ๊ะ เทสไม่ไปด้วยกัน ทำยังไงให้คบกันรอด

มีงานศึกษาว่าคนเรามีสิทธิ์จะเลือก คุย คบ กับคนที่เทสคล้าย ๆ กันหรือรู้สึกแมทช์กับคนชอบอะไรเหมือนตัวเองเพราะมันเป็นแต้มต่อที่ดีที่ทำให้มีเรื่องคุยกัน ไปเดทด้วยกันได้ง่าย และได้มีกิจกรรมจากความสนใจแบบเดียวกันให้ทำด้วยกันเพียบ

แต่เอาจริง ถึงจะมีความคล้ายกัน แต่หลายคู่ก็ยังเจอว่าพอลงดีเทลก็คนละเรื่องเลย การดูฟังหนัง ฟังเพลง และความสนใจด้านศิลปะ มันก็ยากที่จะชอบแบบเหมือนกันหมด เรื่องพวกนี้เลยไม่ใช่แค่ทำให้คนรักกันได้เท่านั้น มันก็ทำให้คนเลิกกันได้ด้วยประเด็นนี้ก็มีงานศึกษารองรับอยู่

คู่ที่ชอบอะไรต่างกัน จะคบกันยังไงให้รอด ดร.เดวิด (Dr.David M. Greenberg) จาก MusicalUniverse.org ได้อธิบายให้เราเข้าใจตามทฤษฎีของอิริคสัน (Erik Erikson) ว่ารสนิยม ความสนใจด้านดนตรีและศิลปะมันเป็นการพัฒนาทางจิตสังคมที่สูงที่สุด (ลึกที่สุด) ของพวกเราที่จะเปิดเผยอารมณ์และตัวตนให้คนอื่นรับรู้ว่าเราเป็นยังไง

ซึ่งมันก็สำคัญกับความสัมพันธ์ตรงที่ว่า เรื่องพวกนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารและการทำความเข้าใจระหว่างคนสองคน แล้วมันก็เกี่ยวกับช่วงอายุด้วย ถ้าตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในช่วงอายุ 20-25 ปี เทสดนตรีแทบจะเป็นทั้งหมดในการแสดงอัตลักษณ์ของตัวเองเลย แถมมันยังทำหน้าที่หล่อหลอม เยียวยา และเป็นกระจกแห่งการเข้าใจตัวตนของตัวเราเอง

ที่เราพูดมา เราตั้งใจที่จะพาทำความเข้าใจว่า พอดนตรีเหมือนเป็นสิ่งแรกที่ไว้แสดงตัวตนของแต่ละคนแล้ว วิธีการที่ดีที่สุดที่ถ้าความรู้สึกแรกเรารู้สึกแปลกกับเทสของอีกคน ตอนที่เริ่มแชร์กัน อย่าหลุดขำหรือเผลอเหยียดเทสของอีกคนออกมาเพราะมันทำให้เสียความรู้สึกกันได้ สิ่งที่อยากให้ทำ คือ การลองทำความเข้าใจดูว่า เพราะอะไรอีกคนถึงชอบแนวนี้ มีความสุขเวลาได้ฟัง ได้ดูยังไง ฟินยังไง แบบเปิดใจโล่ง ๆ อย่าเพิ่งเหยียดหรือขำในใจ เราอาจจะได้ฟังเหตุผลจากการเล่าของอีกคนที่ทำให้เราประทับใจก็ได้

แต่ถ้าฟังแล้วก็ยังรู้สึกว่า แม่งแปลกหวะ ก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าเราสามารถไปต่อกับความชอบของอีกคนในความสัมพันธ์นี้ได้ไหม หรือว่าถ้าเรารู้สึกว่าโอเค ข้ามได้ ไว้แยกกันฟัง แยกกันดูก็โอเค แล้วก็ค่อยไปหากิจกรรมอื่นที่ชอบตรงกันดูก็ได้แบบนี้ก็ได้ไปต่อ

อีกวิธีการหนึ่งที่หลายคู่ก็ลองใช้ คือ การลองแลกแพลนกันดูหนัง ฟังเพลง และเที่ยวแบบที่อีกคนชอบก็ถือว่าเป็นการลอง เผื่อเรารู้สึกดีเหมือนกันที่ได้เข้าไปรู้จักตัวตนของอีกคนผ่านเทสของเขา ก็ถ้าลองแล้วรู้สึกว่า แม่งไม่ได้เลย แล้วทั้งชีวิตจิตใจเรามันเป็นเรื่องพวกนี้ก็อาจจะลองคิดกับตัวเองดูอีกทีว่ายังแมทช์กันอยู่ไหม เพราะรสนิยมเป็นเรื่องปัจเจกมาก ๆ ถึงมันอาจจะเปลี่ยนตามเวลาได้ แต่ระหว่างนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบกับกิจกรรมในช่วงสานสัมพันธ์ได้หมือนกัน ยังไงลองดู

ตอนนี้มีใคร คนละเทสกันเลยแต่ยังคุยหรือคบกันได้ดีบ้าง อยากรู้ ๆ ว่าไม่แมทช์กันเรื่องไหน แล้วจัดการกันยังไง น่าจะสนุกและได้วิธีที่ดี 😂

Related Posts