ย้อนดูความสวยในประวัติศาสตร์ที่ผู้หญิงต้องแลกมาด้วย “ความเจ็บปวด”

ปฏิเสธไม่ได้เลย “ความสวย” เป็นเรื่องที่แทบทุกคนใฝ่ฝัน แล้วถ้าพูดคำว่าสวย เราคงอยากได้ยินจากคนที่เราเชื่อว่าเขาชื่นชมเราจริง ๆ เพื่อน ๆ เคยอยากได้คำชมว่าสวยไหม
 
ความสวยที่ผ่านมาจากจุดเริ่มต้น มันแทบไม่เคยเปลี่ยนเลย เรายังคงตามหาความสวยให้ตัวเอง ซึ่งมันก็กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของคนทุกยุค ที่พยายามแต่งหน้า บำรุงผิว ทำผม แต่งตัว เล็บ และอื่น ๆ เพื่อให้คนรอบตัวยอมรับ ซึ่งตลาดก็ทำหน้าที่เสิร์ฟสิ่งเหล่านี้ให้ผู้บริโภค
 
แต่รู้ไหมเราเจอว่าผู้หญิงในอดีตมีค่านิยมความสวยที่แปลกมาก เพราะผู้หญิงบางคนถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตของตนเอง เพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานความงามของยุคสมัยนั้น ๆ ต่อให้ต้องยอมทนเจ็บปวดจากการทำสวยมากก็ตาม เพื่อให้ตัวเองถูกยอมรับจากครอบครัว สามี ชุมชน แวดวงสังคม โดยถ้าไม่ทำก็คงถูกกีดกัน ซึ่งอาจถึงขั้นโดนมองว่าแปลกในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้
 
ทีนี้มาดูกันว่าในอดีตมีความเชื่อเกี่ยวกับค่านิยมความสวยงามอะไรบ้างที่แปลกประหลาด และอาจเป็นความสวยที่เพื่อน ๆ คาดไม่ถึงมาก่อนว่ามันเคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว
 
💀 ยืดกะโหลกเพื่อให้หน้าผากดูสวย ความเชื่อของชาวมายันโบราณเชื่อว่าการมีหน้าผากที่แบนเรียบถือว่าเป็นความงดงาม ซึ่งพวกเขาทำการกดและผูกกะโหลกเป็นรูปทรงต่าง ๆ
⛓ ทนใส่เสื้อรัดรูปที่ทำจากโลหะจนกระดูดซี่โครงหัก ในศตวรรษที่ 19 มีกระแสนิยมบอกว่าผู้หญิงควรมีเอวเล็ก ซึ่งคอร์เซ็ต (เสื้อผ้ารัดรูป) สมัยก่อนทำมาจากโลหะ ทำให้ผู้หญิงที่สวมคอร์เซ็ตทุกวันต้องทรมานจากกระดูกซี่โครงหักและอวัยวะที่ถูกเคลื่อนย้ายนั่นเอง
🧪 อาบสารหนูเพราะคิดว่าจะทำให้ผิวขาวและดูเด็ก ในยุควิกตอเรีย (ช่วงปี 1837-1901) ผู้หญิงจุ่มตัวเองลงในสารหนูเพื่อให้มีผิวที่ขาวราวกับน้ำนม และก็มีเครื่องสำอางจำนวนมากที่ใส่สารหนูลงไปเพราะเชื่อว่าจะทำให้ผิวดูขาวขึ้นและอ่อนวัยขึ้น
🥿 ยอมใส่รัดเท้าจนกระดูกหัก เริ่มตั้งแต่ยุคต้นของศตวรรษที่ 10 ชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่าการที่ผู้หญิงมีเท้าเล็กเหมือนดอกบัวนั้นบ่งบอกถึงการมาจากตระกูลผู้ดี จึงเกิดเป็นประเพณีรัดเท้าขึ้นมา ซึ่งเขามัดไว้เป็นเวลา 2 ปี จนเท้าเปลี่ยนรูปทรงคล้ายดอกบัวจิ๋ว
🫦 ทำลักลิ้มด้วยเครื่องเหล็กกดจนกว่าลักยิ้มจะขึ้น ช่วงปี 1930 ได้มีเครื่องจักรที่ไว้สำหรับสร้างลักยิ้มโดยเฉพาะ โดยมีปุ่มสองปุ่มกดเข้ากับแก้มของผู้สวมใส่ เพื่อให้ได้ลักยิ้มที่สวยงามแม้ต้องแลกกับความเจ็บปวดมาก ๆ ก็ตาม
 
จริง ๆ มีอีกนะ ทุกคนว่าความสวยไหนดูเจ็บ แปลกสุดบ้าง หรือมีที่คิดว่ายิ่งกว่านี้ เอามาแชร์เลย

Related Posts