เปิดบทสัมภาษณ์ ชวนรู้จัก ออยล์-ดนยา หรือ A.YA.YOI

LIDO ART CULT X A.YA.YOI ⌛💗 ย้อนความทรงจำสีหวาน สะท้อนภาพเมื่อวันวานไปกับ ออยล์-ดนยา ตันปัทมดิลก หรือ A.YA.YOI เจ้าของผลงานบน 7 FRAMES ที่ LIDO CONNECT ผ่านคาแรกเตอร์หญิงสาวผมส้มที่เป็นเอกลักษณ์ และเหล่าผองเพื่อนตัวละครหลักแสนคุ้นตา

หลาย ๆ คนคงมีความทรงจำกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากมาย จากเรื่องราวที่เชื่อมโยง ทำให้เรามีทั้งความสุขและความทุกข์ปะปนกันไป อย่างภาพของคุณ ออยล์ – A.YA.YOI ที่บอกเล่าความทรงจำจากผู้คนที่ได้พบเจอ หนังสือที่เคยอ่าน เพลงที่ได้ฟัง หรือแม้กระทั่งสถานที่ที่ไป ผ่านงานสไตล์ Pop ดูเป็นกราฟิกผสมสไตล์เส้น Doodle ดูเหมือนนิทานเด็กที่ให้ความเป็นวัยรุ่น แสดงความรู้สึกสดใส ดูเข้าถึงง่าย มีชีวิตแม้จะเป็นภาพนิ่งก็ตาม 

👩🏼‍🦰 เปิดบทสัมภาษณ์คุณออยล์ – A.YA.YOI พูดคุยถึงคาแรกเตอร์ สไตล์งาน แรงบันดาลใจ จนไปถึงที่มาของภาพที่นำมาจัดแสดงบน 7 FRAMES ที่จะทำให้ทุกคนอมยิ้มอยู่ในหัวใจ

สวัสดีค่า ออยล์-ดนยา ตันปัทมดิลก นามปากกา A.YA.YOI (อะยะยอย)
จบจากภาควิชานิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรค่ะ  ปัจจุบันเป็นศิลปิน นักวาดภาพประกอบอิสระ

ที่มาของชื่อ A.YA.YOI (อะยะยอย)

มาจากตอนเข้าเรียนม.ปลายแล้วแล้วรุ่นพี่กลุ่มที่สนิทกันช่วงนั้นฮิตเล่นแยกสระกับชื่อเล่น พอดีมีรุ่นพี่ชื่อออยเหมือนกัน เป็นอะยอย เพื่อนเลยพูดเล่น ๆ ว่างั้นเราก็ต้องเบิ้ลคำเป็นอะยะยอย เห็นลักษณะของตัวเขียนแล้วแปลกตาดีค่ะทำให้นึกถึงความเป็นญี่ปุ่นหน่อย ๆจากสระอะสองตัว (คิดเอง555) เห็นแล้วดูมีความขี้เล่นปนน่ารักบางอย่างเลยถูกชะตาเอามาใช้เป็นนามปากกาเลยแล้วกัน เพราะด้วยความที่ตัวเราชอบอะไรแปลก ๆ อยู่แล้ว ช่วงนั้นจะชอบวาดสัตว์ประหลาดมากเลยค่ะ (ตอนนี้ก็ยังมีวาดแทรกอยู่ในงานบ้าง ถ้าสังเกตดี ๆ งานเราจะมีความเซอร์เรียลนิด ๆ ด้วย) แต่สุดท้ายตัดสินใจใช้ภาษาอังกฤษแทนเพื่อง่ายต่อการใช้งานมากกว่าก็ยังชอบอยู่ดีค่ะ

นิยามสไตล์ของงาน เอกลักษณ์

งานเราจะมีความ Pop ดูเป็นกราฟิกผสมสไตล์เส้น Doodle เทคเจอร์งานมือเหมือนนิทานเด็กแต่ก็มีความเป็นวัยรุ่นมากกว่าเป็นเนื้องานที่สดใสดูเข้าถึงง่าย ดูมีชีวิตทั้งที่เป็นภาพนิ่ง

เทคนิคการสร้างผลงาน

ใช้เทคนิคดิจิตอลอาร์ตเป็นหลักค่ะ

แรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน

การได้พบเจอผู้คน หนังสือ เพลงที่ฟัง สถานที่ที่ไป ทุกนาทีมีเรื่องราวเสมอถ้ามีสิ่งที่น่าสนใจเรามักจะจดเก็บไว้หรือร่างภาพไว้ เผื่อเอามาต่อยอดในโอกาสใดโอกาสหนึ่ง

จุดเริ่มต้นของการวาดรูป

จริง ๆ วาดมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ คำตอบอาจจะดูคริเช่ตามเวลาเห็นจากสัมภาษณ์ของศิลปินหลาย ๆท่านหน่อย แต่ความจริงก็แบบนั้นแหละค่ะ เด็ก ๆ และตลอดการเรียนในระบบชอบวิชาศิลปะมากที่สุดเลยค่ะ เลยคิดว่านี่แหละสิ่งที่จะทำมันไปตลอดชีวิตแน่ ๆ มีคอมเมนต์ที่เพื่อนชมว่าวาดรูปสวยบ้างเราก็บ้ายอวาดต่อไปค่ะ555 ขอบคุณเพื่อน ๆ ด้วยบางคนก็ซัพพอร์ตมาจ้างให้วาดภาพให้ตั้งแต่ช่วงมัธยม มันเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่แตกกิ่งก้านใบออกมาได้เรื่อย ๆ ในใจเลยประจวบกับช่วงม.ต้นได้เสพงานภาพประกอบ การ์ตูน ของศิลปินไทย และต่างชาติมากมายในร้านหนังสือ ทำให้ยิ่งกลับมาฝึกฝนว่าสักวันอยากทำให้ได้แบบนั้นบ้างค่ะ

คอนเซปต์ของการวาดภาพ มีวิธีคิดยังไง

ส่วนใหญ่มาจากความรู้สึก สถานที่ที่เคยไป ประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาในชีวิตค่ะ  บางครั้งก็สอดแทรกปรัชญาลงไปด้วย เพราะชอบฟังPodcast แนวแนะนำหนังสือ เรื่องชีวิต บางความรู้สึกที่เราได้พบได้ฟังเหล่านั้น ก็ยังอยากเก็บมาเล่าผ่านภาพประกอบ

หลาย ๆ ภาพเราอยากให้ดูสนุกเหมือนอยู่ในจังหวะเพลงที่เต้นได้ก็จะใช้ท่าทางของตัวละครเข้าช่วย เราอยากให้รายละเอียดในภาพคู่สีที่ใช้มันไม่ต้องเป๊ะมากตามทฤษฎีขนาดนั้น ออกแนวตามใจตัวเองแต่ยังอยู่ในกรอบ สีในภาพถ้าสังเกตุจะมีทั้งคู่สีตรงข้าม กับบางสีที่มันดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้แทรกรวมอยู่ด้วย เราชอบความท้าทายที่ทำให้สุดท้ายเป็นภาพที่ออกมากลมกล่อมตามฉบับของเรา เส้นไม่ต้องเป๊ะก็เหมือนชีวิตมันก็แบบนี้ อะไรปล่อยได้ก็ปล่อย อยากทำอะไรก็ทำอะไรประมาณนั้น บางอย่างในภาพก็อาจจะโผล่มาแบบไม่มีเหตุผล อย่างดอกไม้มีตาสีม่วง(aka ลาล่า) ที่โผล่มาจ้องมองทุกคนอยู่ในหลาย ๆ ภาพ เป็นสัญลักษณ์แห่งความขบถในใจเราเหมือนกัน


เล่าคาแรกเตอร์ที่วาดหน่อย ชื่ออะไร มาจากไหน?

หลัก ๆ จะมีน้อง ๆ 3 ตัวที่เป็นพี่ใหญ่ (และน่าจะมีเพื่อนอีกจำนวนมากในอนาคต)

1.น้องมาวินตี้  (Mavinty)

น้องเกิดตอนเราเรียนอยู่ปี1 อาจจะดาร์กหน่อยแต่น้องเป็นสัญลักษณ์แห่งอิสระและความไม่ต้องสมบูรณ์แบบของเรา เกิดจากตอนที่เรากดดันตัวเองมาก ๆ ในการคิดถึงอนาคต เรียนจบฉันจะเป็นศิลปินได้ไหมนะ จะพาผลงงานไปได้ถึงไหนกันมันปั่นป่วนในใจจนต้องระบายมันออกมา มาวินตี้จึงออกมาเป็นตาข้างหนึ่งปูด อีกครึ่งหนึ่งเป็นหน้าปกติ วาดเสร็จแล้วอยู่ดี ๆ เราสบายใจขึ้นค่ะ และก็ชอบอะไรบางอย่างจากคาร์แรกเตอร์นี้ ที่ไม่ต้องเป็นเหมือนคนอื่นก็ได้ เราช่างแม่งมันบ้างก็ได้ จนต้องตั้งชื่อให้น้อง มาวินเป็นชื่อที่เท่มากจนจำได้ขึ้นใจจากครูตอนอนุบาลค่ะ ;-; ความหมายดีด้วยเหมือนชนะอะไรบางอย่างในใจเราไปแล้ว แต่อยากให้ดูน่ารักด้วยเลยจบด้วยชื่อ มาวินตี้ ค่ะ ชอบใจถูกใจแปลก และเก๋ดี  และน้องเป็นเพื่อนที่คอยอยู่ข้าง ๆเป็นกำลังใจให้น้องปาร์ตี้เสมอมา

2.น้องปาร์ตี้ (Party)

ตัวละครนี้เกิดจากเราอยากทำผมสีส้มค่ะ แล้วช่วงนั้นไปดู inside out 3 แล้วเจอน้องวุ่นวาย ทำให้เราร้องไห้เลยค่ะ เชื่อมโยงกับตัวเองมาก เลยตั้งให้น้องชื่อปาร์ตี้ (จะได้คล้องกับมาวินตี้ด้วย) และสื่อถึงทางสดใสในตัวที่อีกมุมเป็นคนคิดมาก ว้าวุ่นเหมือนจัดปาร์ตี้ครึกโครมอยู่ในหัว แต่ไม่แสดงให้ใครรับรู้

3.ลาล่า (LALA)

ดอกไม้ม่วงมีตาน้องจะจ้องมองเราคอยดูว่าเราทำอะไรเหมือนเป็นตัวเองอีกคนที่เฝ้ามองชีวิตโดยที่ไม่ตัดสินอยู่ด้วยทุกที่เท่าที่จะอยู่ได้เป็นเหมือนเครื่องรางให้ได้อุ่นใจ

Peace of mind

เราชอบบรรยากาศของป่าเขามาก ชอบไปเที่ยวในสถานที่ที่เหมือนมีธรรมชาติโอบกอดเราไว้ ให้เราได้อยู่กับปัจจุบันและได้ผ่อนคลายบ้างเป็นความรู้สึกที่ชอบผ่านเข้ามาในหัว ถ้าเกษียรก็อยากมีสตูดิโอเล็ก ๆอยู่ในเขา

Cozy vibe

 เรามักจะนัดกับเพื่อนหรือไปนั่งทำงานที่คาเฟ่ หลาย ๆ ที่จัดออกมาอบอุ่นแต่ก็ยังมีบรรยากาศของคนรอบๆให้ไม่เหงา เป็นสถานที่ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและตื่นตากับเมนูขนมแสนน่ารักในเวลาเดียวกัน

Puppy love 

เป็นช่วงเวลาที่มีความรักแอบชอบใครสักคน มันดูพยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นดีทำให้มีเอนนเนอร์จี้ และสนุกกับการทำอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อที่จะได้อยู่ในสายตาเขาบ้าง

Lights, Colors, and Sound

หลายๆครั้งเราก็เติมเต็มต่อชีวิตด้วยการไปคอนเสิร์ตและดูศิลปินคนโปรดหลายๆวงเราก็มาดูที่ลิโด้ แสงสีเสียงความตั้งใจของคนเหล่านั้นทำให้เราอยากตั้งใจให้กับความฝันของเราบ้าง เป็นตัวอย่างของความพยายามที่จับต้องมองเห็นได้ยินและรู้สึกได้

I’m an artist!

ช่วงเวลาที่รู้สึกว่าเราก็เป็นศิลปินบ้างแล้วนะ

Miss SCALA

คิดถึงสกาล่าที่เราได้ดูละครเวทีหรือหนังนอกกระแสเป็นครั้งแรก และช่วงเวลากับเพื่อน ๆ ที่ไปด้วยกัน

City Time

เราหลงไหลในตึกราวบ้านช่องในเมืองอย่างญี่ปุ่นที่เราชอบไปชอบมองรูปร่างรูปทรงสีของตึกแต่ละที่คงมีเรื่องราวของมัน เป็นบรรยากาศที่นึกถึงอยู่เสมอ ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาท่ามกลางความเหงา เลยวาดเป็นคนเดินสวนกับรถที่เป็นเมืองอยู่ในนั้น

การฝึกฝนหรือพัฒนาต่อยอดมาจนถึงจุดนี้

ฝึกฝนจากสิ่งที่สนใจค่ะฝึกอย่างสม่ำเสมอในแง่ของทั้งการวาดและการคิดงาน ถ้าแบบไหนดูไม่โอเคไปต่อไม่ได้ก็ลองปรับหาแนวทางใหม่ๆทั้งดูงานแนวที่สนใจเยอะๆ จินตนาการว่าศิลปินหรืองานที่เราสนใจเค้ามีวิธีการยังไงได้แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องชอบงานตัวเองที่สุด พอเราซื่อสัตย์กับตัวเองแล้วไม่ว่างานแนวไหนก็มีกลุ่มคนที่ชอบและพื้นที่ของมันแน่นอน

ฝากผลงาน

ฝากงาน7เฟรมนี้ด้วยนะคะ พามาย้อนความทรงจำความรู้สึกในหลายๆช่วงชีวิตของเราที่อาจจะรีเรทกับใครบางคนเหมือนกัน:)

รู้สึกยังไงที่ได้รับรางวัลจากทางลิโด้

ดีใจและภูมิใจในตัวเองเพราะจริง ๆตั้งเป้าหมายว่าสักวันอยากมาจัดแสดงที่นี้บ้างเป็นสถานที่แห่งความทรงจำในหลาย ๆ แง่มุมเลยและเราก็ได้วาดความทรงจำนั้นไว้ในงานแสดงครั้งนี้ด้วย 

ขอบคุณลิโด้ที่เลือกเรานะคะร่วมงานกันสบายใจมาก ๆ เลยค่ะ

Related Posts