ชีวิตในเมือง เป็นพิษกับคนทำงานสร้างสรรค์ 🏙️
ในขณะที่คนรักงานสร้างสรรค์มองหาพื้นที่ที่สภาพแวดล้อมกว้างขวางพอให้ผ่อนคลาย มองธรรมชาติได้บ้าง มีสีเขียว คนรักงานศิลปะเองก็ชอบที่จะอยู่ในที่โล่ง โปร่ง สบายตา แต่สำหรับพวกเราคนทำงานในเมืองใหญ่พื้นที่เหมาะแบบนี้กลับหาได้ยาก และกลายเป็นว่าต้องอดทนอยู่ในตึกจนรู้สึกอึดอัด
ตึกและอาคารกลายเป็นสิ่งที่เป็นพิษกระทบกับสุขภาพร่างกายและอารมณ์ก็ก่อให้เกิด Sick Building Syndrome ขึ้นมาได้ อาการของภาวะนี้ทำให้เราอ่อนล้าลง อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ปวดหัว ใจสั่น ไปจนถึงหายใจไม่ออก และมีอาการแพ้รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งหลายคนก็กำลังเผชิญกับมันอยู่ในระดับที่ต่างกัน
Sick Building Syndrome คือตัวหลักสำคัญที่สะท้อนสภาพแวดล้อมในเมืองที่ไม่เอื้อกับคนทำงานสร้างสรรค์ ซึ่งพอเราเชื่อมโยงกับงานวิจัยที่ศึกษาระหว่างสิ่งแวดล้อม ภูมิทัศน์ที่ส่งผลต่อความสามารถในการคิดสร้างสรรค์มีการยืนยันชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกัน
ยิ่งสภาพแวดล้อมมีความเป็นตึกหรือให้ความอึดอัดกับเราเท่าไหร่ ความคิดสร้าง
สรรค์เรายิ่งลดลง นอกจากนี้มลภาวะทางเสียงและอากาศก็เกี่ยวด้วย เป็นตัวเสริมระดับอาการของ Sick Building Syndrome สำหรับคนที่ใช้เวลาทำงานทั้งวัน โดยที่ไม่ได้เจอแสงแดด อากาศถ่ายเท อันนี้ยิ่งทำให้ส่งผลกระทบกับการประสิทธิภาพในการใช้ความคิด จินตนาการ เหนื่อยไว และหมดไฟได้
ออฟฟิศและสภาพแวดล้อมที่คนทำงานสร้างสรรค์อย่างเราโหยหา คือ พื้นที่ที่กว้างขวางหรือโล่งพอสมควร พอที่จะกระตุ้นจินตนาการ อารมณ์ที่ดี และให้ความรู้สึกว่าสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งตอนนี้ยังคงหายากอยู่
ต่อให้เราตกแต่งเติมธรรมชาติที่อาจจะพอช่วยเสริมได้บ้างในพื้นที่สอยที่มีจำกัด แต่ในพื้นที่สาธารณะที่เราเข้าถึงได้ฟรีและอากาศหายใจก็ยังไม่เอื้อกับเรา (จากภาวะฝุ่นละอองและควัน) ในตอนนี้ รวมถึงสภาพอุณหภูมิที่ร้อนจัดมาก ก็ทำให้เรายังคิดว่าไม่ง่ายเลยที่จะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อกับการทำงานสร้างสรรค์ในเมืองได้จริง ๆ
มีใครรู้สึกว่าตัวเองกำลังเจอภาวะนี้อยู่ อยากชวนแชร์นะ คิดว่าเราจะทำยังไงให้ยังทำงานสร้างสรรค์ดี ๆ ในเมืองแบบนี้ได้บ้าง