ผู้หญิงกับรอยสัก ประวัติศาสตร์ของศิลปะบนเรือนร่างและจุดยืนทางสังคม

ผู้หญิงกับรอยสัก ประวัติศาสตร์ของศิลปะบนเรือนร่างและจุดยืนทางสังคม เอาเรื่องประวัติรอยสักก่อน ถ้าย้อนกลับไป นักโบราณคดีบอกว่า ตั้งแต่ก่อนปี 1991 การสัก น่าจะเกิดขึ้นเมื่อ 2,000-3,000 ปีก่อน (ก็คือหมายความว่ามีมาก่อนคริสตศักราช) โดยมีการค้นพบจากเครื่องเคลือบดินเผาของจีน ซึ่งมีรูปคนที่มีลายสักและมีการพบมัมมี่ที่มีลายสักในอียิปต์อีกด้วย ที่นี้รอยสักของผู้หญิง เริ่มมาตอนไหน มันเริ่มจากที่กรีก ตอนนั้นรอยสักทำหน้าที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์บนใบหน้าของทาสและอาชญากร ผ่านมาสักพักการใช้รอยสักรูปแบบนี้ก็เริ่มแพร่หลายในทวีปยุโรปมากขึ้นนั่นเอง สรุปก็คือตอนนั้นรอยสักก็ถูกทำให้เป็นสัญลักษณ์ของนักโทษและผู้รับใช้ ส่วนในไทย แต่ก่อนการสักก็ไม่ต่างกัน ก็จะมีการสักหลายตำแหน่งเลย ทั้งสักที่ข้อมือ (แสดงการขึ้นทะเบียนเป็นไพร่) ทั้งสักที่หน้าผาก (แสดงว่าเป็นนักโทษจําคุก) มันคือการประจานความผิดตามกฎมณเฑียรนั่นแหละ ซึ่งจะเป็นผู้ชายที่ถูกทำแบบนี้ มาถึงการสักของผู้หญิงบ้าง เรื่องซ่อนเร้นของรอยสักที่อยู่บนตัวผู้หญิง มันมีนัยะของการเป็นสัญลักษณ์เชิงเสริมอำนาจในยุคสตรีนิยม ที่ผู้หญิงสักเพื่อเรียกร้องสิทธิของตัวเองที่ไม่ยอกถูกกดขี่ไม่ว่าจะเรื่งออะไรก็ตาม ไม่ยอมรับการถูกบังคับทำแท้ง การถูกทำร้ายจากผู้ชาย รวมถึงอำนาจกดขี่ ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นถึงของความเข้มแข็งของผู้หญิงสมัยก่อนมาก ๆ การสู้กับความเหลื่อมล้ำทางเพศ สุดท้ายก็มีผู้หญิงคนแรกที่สักเกิดขึ้นจริง ๆ ในสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Olive Oatman เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวที่มีรอยสักสักสีน้ำเงินบริเวณคางที่มีไว้เพื่อระบุตัวตนในชีวิตหลังความตายของเธอนั่นเอง จากรอยสักของโลกจนมาถึงผู้หญิงมันเดินทางไกลมาก ตอนนี้จากเมื่อ 20 ปีที่แล้วก็เหมือนกัน ผู้หญิงก็ยังไม่เยอะ แทบจะไม่มีใครสักเลย แต่การสักของผู้หญิงก็ถูกใจอีกครั้งตอนที่อาจารย์หนู กันภัย สักให้แองเจลีนา โจลี ดาราฮอลลีวูด จากนั้นเราก็เริ่มเห็นผู้หญิงพากันไปสักยันต์ 5 แถวกัน โดยที่ใช่เพื่อบูชาอย่างเดียว […]

BUD LIVEHOUSE SPECIAL: Lipta B-Side ก็ไม่คิดว่าจะเล่นเพลงนี้

“ทักครับ” รอบนี้คงไม่ตอบ “ก๊อก ก๊อก” ก็ไม่สนใจ เพราะคอนเสิร์ตนี้สำหรับคนที่คิดถึง Lipta เท่านั้น  BUD LIVEHOUSE SPECIAL: Lipta B-Side ก็ไม่คิดว่าจะเล่นเพลงนี้  คอนเสิร์ตรวมเพลงฮิตที่ไม่ได้หยิบมาเล่นนานแล้ว จากอัลบั้ม ‘Lipta’ และ ‘Can You See Me?’ ในบรรยากาศอบอุ่นแบบเวทีวงกลม พร้อมโชว์สุดพิเศษที่ทั้งสองจัดเต็มเฉพาะครั้งนี้เท่านั้น เอาใจแฟน Lipta ตัวจริง  Opening Act: Bent_tneb / Jeanius / Guncharlie จากค่าย Kicks Records   วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 650 บาท กดเลยที่ Ticketmelon จำกัด 400 คนเท่านั้น 📍 Lido Connect Hall 3 เห็นชื่อเพลงไหนบนโปสเตอร์ […]

กระแสเพลง Speed-Up บน Tiktok กำลังทำลายคัลเจอร์การฟังเพลงอยู่รึเปล่า

กระแสเพลง Speed-Up บน Tiktok กำลังทำลายคัลเจอร์การฟังเพลงอยู่รึเปล่า จะพูดว่าเป็นอีกรสชาติหนึ่งของเพลงในโซเชียลตอนนี้ก็ได้ โดยเฉพาะใน Tiktok เต็มไปหมด ที่เพลงในทุกวงการโลกจะถูกมิกซ์ใหม่ให้มันส์กว่าเดิม แบบไม่แคร์เวอรชั่นออริจินัลแล้ว ถ้ายังงงว่าอะไรคือเพลง Speed-Up มันคือเพลงที่เอามามิกซ์ใหม่ด้วยการเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น และใช้ High-pitched เปลี่ยนเสียงร้องให้เป็นเสียงแหลม มันถูกมองว่าเป็นเพลงแบบ Happy hardcore มาก ๆ เพราะว่าพอออกมาก็คือต้องสนุกสุด มันส์สุด ไม่สนความเพราะด้วย จริง ๆ การมิกซ์เพลงแบบนี้มันมีนานมาแล้ว แต่ที่แมสมาก ยิ่งกับปีนี้ก็เพราะ Thomas S. Nilsen และ Steffen Ojala Soderholm เป็น 2 คนจากนอร์เวย์ที่ใช้ Nightcore (เทคนิคมิกซ์เพลงแบบเร่งจังหวะ) เป็นตัวต้นเรื่องให้ Tiktok ผลิตเพลงแบบนี้ออกมากับเพลงอิต (จากเพลงดั้งเดิม) เสิร์ฟพวกเราชาว Tiktokers ตอนนี้การใช้ Nightcore ทำเพลง Speed-Up มีอยู่เต็มไปหมด ถ้าเสิร์ชดูก็จะเจอเยอะมากเพลงมิกซ์ Tiktok […]

เข้าใจวัฒนธรรม Mosh Pit การเต้นสุดเดือดของสายเมทัลและฮาร์ดคอ

เข้าใจวัฒนธรรม Mosh Pit การเต้นสุดเดือดของสายเมทัลและฮาร์ดคอร์ที่หลายคนมองว่าบ้าบิ่นและอันตราย มอชพิท หรือ Mosh Pit ถ้าเราย้อนดูเหมือนว่าจะคล้ายกับพิธีกรรมของชนเผ่าในปาปัวนิวกินีเมื่อกว่า 40,000 ปีก่อน ที่ผู้อาวุโสในเผ่าจะทำการแบ่งปันของบางอย่างให้ถ้าออกมารวมกลุ่มเต้นชนกัน ซึ่งพอไล่มาในช่วงที่มีการเรียกสิ่งนี้ว่ามอชพิทจริง ๆ ก็น่าจะเป็นช่วงประมาณปี 80’s ที่มีวง Hardcore punk เล่นดนตรีสดแล้วคนมอชกันเลยเรียกสิ่งนี้ว่าแมชพิท (Mash pit) แล้วเหมือนก็ถูกได้ยินว่า มอชพิช วัฒนธรรมมอชพิทแพร่กระจายไปพร้อมกับการเล่นดนตรีในสายพังค์ ร็อค และเมทัล แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะโอเคกับการเต้นนี้ แม้แต่ศิลปินเองก็ตาม อย่างครั้งหนึ่งที่ซานเบอร์นาร์ดิโน (San Bernardino) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย คอรีย์ (Corey Taylor) นักร้องนำสลิปน็อต (Slipknot) วงเมทัลระดับโลกเคยสั่งหยุดเล่นสดกลางคันด้วยเหมือนกัน เพราะเห็นว่าทุกคนกำลังมอชพิทกันแบบบ้าระห่ำเกินไปถึงขนาดที่บางคนชักและมีการจุดไฟเผาเสื้อเอามาโบก ก็อันตราย เจ้าหน้าที่เลยเข้ามาดับไฟและรักษาความปลอดภัย นอกจากครั้งนี้ ศิลปินอีกหลายคนก็ไม่เอ็นจอยกับสิ่งนี้เพราะมองว่าเหมือนคนดูสนใจที่จะมอชมากกว่าการแสดง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนโอเคอยู่ ทีนี้มามองในมุมของพฤติกรรมบ้าง นักมานุษยวิทยาในอังกฤษ อธิบายว่าคนที่ทำมอชพิทจะเคลื่อนที่แบบสุ่ม ไร้ทิศทาง และกระแทกกันจนทำให้เจ็บตัวได้ ซึ่งถ้าจินตนาการภาพแบบฟิสิกส์ เวลาคนมอชกันมันเหมือนอนุภาคของแก๊สที่กำลังเคลื่อนที่ กระดอนไปมา และถ้ามองแบบจิตวิทยามันเป็นการที่คนทำต้องการดำดิ่งไปกับดนตรีและปล่อยร่างกายให้เคลื่อนไหวอิสระตามอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นจากเพลง ดูเหมือนจะเป็นการสื่อสารแบบกลุ่ม […]

ทำไมเราถึงกล้า “ทิ้ง” ทุกอย่างตอนสิ้นปี

มีอะไรที่อยากทิ้งมาทั้งปีแต่ไม่กล้าไหม รอเวลาปีใหม่ถึงจะตัดใจได้ รู้ไหม ทำไมเราถึงกล้า “ทิ้ง” ทุกอย่างตอนสิ้นปี เริ่มต้นพอเดินทางมาตลอดทั้งปีกับประสบการณ์และสิ่งที่เราเจอ ทำให้พอถึงเดือนธันวาคมหรือช่วงกลายเป็นเวลาของการที่เรารวบรวมความทรงจำ เรามักจะถูกกระตุ้นให้หันกลับไปมองตัวเองใน 12 เดือนที่ผ่านมาเหมือนเป็นการรีวิวตัวเอง ทำให้เรามีจุดหนึ่งที่เปลี่ยนจากความเศร้า คิดถึง หรือหวงแหนบางอย่างที่เราไม่กล้าปล่อยแม้มันทำให้เราเศร้า เจ็บปวด เป็นการชื่นชมและอยากให้ความรักตัวเองตัวเองมากที่สุดแทน นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลือกที่จะใช้เวลานี้ในการกล้าปล่อยมือจากสิ่งที่เรายึดติดไว้แล้วบอกตัวเองให้ก้าวต่อไป พูดได้ว่าเป็นความเต็มใจของเราที่อยากสะสางเรื่องบางอย่างของตัวเองสักที ซึ่งสิ้นปีและปีใหม่กลายเป็นเวลาที่เหมาะสุดสำหรับการทิ้ง แล้วก็ไม่ใช่เรื่องการทิ้งเท่านั้น พลังของสิ้นปีหลายครั้งก็ทำให้เรากล้าที่จะเริ่มต้นบางอย่างที่เรากลัวหรือเอาแต่ผลัดมาตลอดด้วย ต่อให้เป็นเช็คลิสต์เล็ก ๆ ของตัวเองอย่างการซื้อของ ออกเดินทาง ลงคอร์สเรียน เริ่มอ่านหนังสือ เขียนไดอารี่ ออกกำลังกาย หาหมอ ตรวจสุขภาพ ฯลฯ ดร.จูดิธ ซิลล์ส (Judith Sills) นักจิตวิทยาคลินิค ก็บอกว่าสิ้นปีนี่แหละเป็นเวลาที่เหมาะและดีสุดที่เราจะได้บอกตัวเองให้มีแพชชั่นที่จะเริ่มต้นทำเริ่มพวกนี้ ไปพร้อมกับการทิ้ง ปล่อยวาง ใจดีกับตัวเองได้แล้ว ถึงเวลาที่เราต้องทิ้งสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดได้แล้วนะ ทิ้งความคาดหวังว่าเราจะต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ทิ้งความคิดเก่า ๆ และความล้มเหลวล้มเหลว กล้าเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าเริ่มต้นใหม่แล้วไม่เวิร์ค ให้ทิ้งอีกที แล้วลองเปลี่ยนวิธีดู ถ้ามันผิดพลาด จนเรารู้สึกผิด ให้รู้จักให้อภัยตัวเองโดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ เรียนรู้มันไป และทิ้งความกังวลจากความเห็นของคนที่ไม่รู้จักเราดีพอด้วยนะ ทุกวันนี้ยังมีเรื่องที่เราไม่กล้าทิ้งไหม มาถึงตรงนี้จะหมดปีแล้วนะ คิดว่ากล้าที่จะปล่อยมันไปหรือยัง สำหรับใครที่ทิ้งได้แล้ว เก่งมาก

FESTIVAL TYCOON ฝันของคนรักคอนเสิร์ต

ฝันของคนรักคอนเสิร์ต ที่ไหนไม่ถูกใจก็จัดเทศกาลดนตรีของตัวเองใน Festival Tycoon ไปเลย ไม่ต้อง้อใคร จะมีหลังคา โฟโต้บูธดี ๆ แค่ไหนก็ได้ นี่เป็นเกมชื่อว่า Festival Tycoon เป็นวิดิโอเกมที่ Johannes Gäbler ใช้เวลาพัฒนาทุ่มเทมากกว่า 2 ปี ชอบมาก เพราะหลัก ๆ ของเกมนี้คือ เราสร้างและจัดงานเทศกาลดนตรีของเราได้เอง จัดเวที ตกแต่งงาน ม็อคอัพมาสคอตได้หมด แถมยังสร้างตัวละครต่าง ๆ วางแผนไลน์อัพศิลปินที่เราต้องการได้ นอกจากนี้ตัวเกมยังมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง และเก็บรายละเอียดอย่างเยอะ! ไม่ว่าจะเป็น การสร้างร้านค้า ร้านขายอาหาร ห้องน้ำ การจัดระเบียบตัวละครต่าง ๆ การหาสปอนเซอร์ ก็คือใครเจ็บจากคอนฯ ไหนมา ไม่ถูกใจ เราก็เก็บเรื่องพวกนั้นมาสร้างเฟสติวัลดี ๆ ของเราได้ รวมถึงจ้างวงดนตรีได้หลายประเภทด้วย ในนี้บอกว่าทั้งโฟล์คและร็อค เราคิดว่าน่าจะทำได้มากกว่านี้ด้วย ที่สำคัญฝึกเราเรื่องบริหารด้วย สิ่งที่เราออกแบบมานั้นก็ต้องมีการบริหารในงบประมาณที่จำกัด และเราต้องดูแลความต้องการของวงดนตรีแต่ละวง ก็คือเรียกได้ว่าเหมือนจริงสุด สำหรับคนรักดนตรีที่มีความฝันอยากมีเฟสติวัลเป็นของตัวเอง […]

CPR Workshop ปั๊มเหอะ พี่ขอ!

กลับมาแล้วกับ CPR ปั๊มเหอะ พี่ขอ! เรียนรู้และฝึกฝนการทำ CPR หรือการกู้ชีพอย่างถูกวิธีกับคณะแพทย์ศิริราชไม่ว่าใครก็สามารถช่วยชีวิตคนอื่นได้ เรียนตั้งแต่ภาคทฤษฎียันปฎิบัติ จบแล้วทำเป็นแน่นอน หรือใครที่เคยเรียนแล้ว กลับมาทบทวนหลักสูตรกันอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจเมื่อพบกับเหตุการณ์จริง ประเดิมวันแรก 14 มกราคม รับจำนวนจำกัดจ้า!กรอกข้อมูลให้ถูกต้อง พร้อมจ่ายมัดจำ 200 บาท (ได้เงินคืนเต็มจำนวนวันงาน)สมัครได้เลยตอนนี้  รับจำนวนจำกัด! เพราะคุณก็สามารถช่วยชีวิตคนอื่นได้ 💗

BUD LIVEHOUSE #31 / #32

Budweiser Club และ Lido Connect ร่วมสร้างวัฒนธรรมมัน ๆ แบบไลฟ์เฮ้าส์แห่งแรกใจกลางสยาม กับประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่เหมือนใคร คอนเนกต์กับศิลปินผ่านเวทีวงกลมแบบ 360 องศา ที่เดียวที่ BUD LIVEHOUSE ส่งท้ายปี 2022 ด้วยความมันแบบทะลุจักรวาล แม้แต่คอสมิคบีอิ้งยังต้องบินมาไลฟ์เฮ้าส์ใจกลางสยามแห่งนี้ พร้อมหยิบยื่นกีตาร์แห่งสันติภาพให้กับคนฟังเพลงไทยทุกคน  BUD LIVEHOUSE #31 – 7 Dec 2022: Apartment Khunpa / ดารารัศมี Dara Rasmi / LEPYUTIN BUD LIVEHOUSE #32 – 21 Dec 2022: Summer Dress / KUNST / The Biirthday Party   ราคา 200 THB/day ซื้อบัตรที่ Ticketmelon […]

Gaslighting คำที่ถูกเสิร์ชมากที่สุดในปีนี้ สะท้อนปัญหาสุขภาพจิตในความสัมพันธ์ที่ Toxic รึเปล่า

Gaslighting คำที่ถูกเสิร์ชมากที่สุดในปีนี้ สะท้อนปัญหาสุขภาพจิตในความสัมพันธ์ที่ Toxic รึเปล่า

พอเห็นคำนี้รายงานว่าเป็นคำที่ใช้เยอะสุดในปีนี้จากรายงานของ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ (Merriam-Webster) พจนานุกรมภาษาอังกฤษ กับที่ช่วงครึ่งปีหลัง เราจะเห็นหลายคนพูดถึงความสัมพันธ์ Toxic กับตัวเองหรือเพื่อนคอยบอกให้ทุกคนออกมาจากความสัมพันธ์เหล่านี้ 💔 ซึ่งถ้าตามที่เมอร์เรียมจำกัดความไว้ จะบอกว่ามันคือการกระทำที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดหรือทำให้คนอื่นตกเป็นเป้าสงสัย เพื่อประโยชน์บางอย่างของตัวและให้ตัวเองไม่มีความผิด ซึ่งจากรายงานคำนี้ถูกค้นหาและใช้ในปี 2022 นี้มากกว่า 1,740 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Gaslighting ใน Relationship ถ้าเรามีความสงสัยในตัวเองลึก ๆ รู้สึกตัวเล็ก ไม่ดีพอสำหรับอีกคนอยู่ แล้วทุก ๆ วันเราเจอการที่ถูกอีกคนบอกว่า ‘เป็นความผิดเรา’ ‘ทำอย่างงี้ก็เพราะเรา’ สุมไฟในใจเราบางอย่างให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองกับความสัมพันธ์ก็ใช่เหมือนกัน แนวทางที่มาชัดมากเลยของ Gaslighting คือการเลี่ยงสุดที่จะยอมรับว่าเป็นความผิดตัวเอง ใช้การเถียงแทน และโทษอีกฝ่าย ซึ่งต่อให้มีการขอโทษก็ขอโทษแบบที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด นอกจากนี้ Gaslighting ก็ถูกใช้บ่อยในบริบททางการเมือง อย่างในสหรัฐอเมริกาเราก็จะเจอบ่อยจากทรัมป์ที่โจมตีฝ่ายอื่น ยิ่งทำให้คำนี้ฮอตมาก เหมือนเป็นการทำสงครามเย็นใส่กันในความสัมพันธ์ ถ้าใครรู้สึกว่ากำลังตำหนิตัวเองจากคำพูดอีกคนทุกวัน ยังไงอยากลองคุยกับตัวเองดูว่ามันเป็น Toxic Relationship ที่เราต้องออกมาแล้วรึเปล่า

ฟังเพลง Lo-fi แก้ Burn out ได้ บีตส์เบา ๆ ช่วยให้ไม่ง่วง แถมฮีลใจ

ฟัง Lo-fi แก้ Burn out ได้ บีตส์เบา ๆ ช่วยให้ไม่ง่วง แถมฮีลใจ เพื่อนหลายคนต้องฟังเพลงตอนอ่านหนังสือหรือทำงานจะได้ยิงยาวได้ แต่อาจจะไม่ค่อยชอบเพลงบรรเลงคลาสสิกเพราะมันหนักหูไปหน่อย ใช้ Lo-fi ฟังแก้ Burn out ได้นะ ยิ่งถ้าเป็น Calm Lo-fi ติด Hip hop หน่อย บีตส์เบา ๆ ช่วยให้เราทำงานได้ดี ไม่ง่วง ฮีลใจด้วยความเครียดเราจะลดลง จริง ๆ นี่เป็นตัวเลือกที่อีกหลายคนกำลังติดมาก ๆ ใช้ฟังเวลาอ่านหนังสือหรือเราจะได้ยินบ่อยเวลาไปนั่งคาเฟ่ เพลงโล-ไฟ (Lo-fi) หรือ Low Fidelity ที่สามารถดึงสมาธิ ความผ่อนคลายจากเราได้ จากงานศึกษามหาวิทยาลัย McGill ที่เก่าแก่สุดในประเทศแคนาดาบอกว่าประโยชน์ของ Lo-fi ด้วยเพราะธรรมชาติของมัน พอเป็นจังหวะดนตรีที่ดาวน์เทมโปลง (Downtempo / Downbeat) ก็ทำให้อารมณ์โดยรวมของเพลงช้าลง สบาย แล้วมันปรับอารมณ์เราทำให้มีสมาธิ ช่วยให้สมองเราหลั่งสารเซโรโทนินและโดปามีนเพิ่มขึ้น […]