ทำไมคนมีความรักมักทนความเจ็บปวดได้มากขึ้น
ทำไมคนมีความรักมักทนความเจ็บปวดได้มากขึ้น มีผลงานวิจัย Scandinavian Journal of Pain ที่รองรับเรื่องนี้อยู่ โดยงานศึกษานี้เลือกคู่รักมา 48 คู่ อายุเฉลี่ย 25 ปีที่คบกันมานานแล้วมากกว่า 3 ปี เพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างของการรับมือระดับความเจ็บปวดของแต่ละคนเมื่อมีคนรักอยู่ด้วย ในการทดลองจะมีการจัดให้มาอยู่ในห้องเดียวกันและประเมินความเห็นอกเห็นใจของแต่ละฝ่ายที่มีต่อคู่รักของตัวเอง ก่อนจะเข้าการทดสอบที่ทำให้ได้รับความเจ็บปวดจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ออกแบบไว้ ผลปรากฎว่า ผู้ที่เข้าทดสอบสามารถรับมือและอดทนกับความเจ็บปวดนั้นได้ หากคนรักอยู่ต่อหน้าตัวเองด้วยแม้จะไม่ได้สัมผัสเพื่อให้กำลังใจกันก็ตาม แค่อยู่ด้วยใกล้ ๆ กันหรือในสายตาเท่านั้นแต่ผลลัพธ์ก็ช่วยลดความเจ็บปวดได้ แล้วยิ่งถ้ามีการสัมผัสเพื่อให้กำลังใจด้วยการจับมือหรือเป็นคำพูดที่ใส่ใจด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คนที่กำลังเผชิญความเจ็บปวดรู้สึกเจ็บน้อยลงมากขึ้นไปอีก เนื่องจากการให้กำลังใจจากคนรักนั้นส่งผลต่อความรู้สึกปลอดภัยและคลื่นสมองที่จะทำให้รู้สึกว่าเจ็บปวดกับสิ่งเร้านั้นลดน้องลง ผลการศึกษานี้ยังสอดคล้องกับความคิดเห็นจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพสารสนเทศทางการแพทย์และเทคโนโลยี ประเทศออสเตรียด้วย รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกว่า มีอีกหนึ่งเหตุผลที่เป็นไปได้เหมือนกันที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดน้อยลงได้ถ้ามีคนรักอยู่ด้วย นั่นเพราะเราโฟกัสไปที่คนรักของเรามากกว่าความเจ็บปวดที่ตัวเองได้รับ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาเราไปโรงพยาบาลหรือเข้ารับการรักษา แล้วพอมีคนที่เรารักไปอยู่ข้าง ๆ ด้วยกันถึงช่วยให้เราสบายใจและรู้สึกเจ็บน้อยลงได้ และมากกว่าทางร่างกาย เราก็มองเห็นว่าการมีคนรักอยู่ด้วยและสนับสนุนทางอารมณ์ให้กับเราก็สามารถช่วยลดความเจ็บปวดทางใจได้ในเวลาที่เราต้องเผชิญกับความเครียด ความกดดันและความเจ็บปวดจากสังคมได้เหมือนกัน อ้างอิงhttps://bit.ly/3tMhtkXhttps://bit.ly/3KyYZu9https://bit.ly/3nOH493
LIDO CINEMA SHOWTIME LIDO 1
LIDO CINEMA SHOWTIME LIDO 1 อยากฟังเพลงเพราะ ๆ ดู Belleอยากผ่อนคลาย ดู Petite Mamanอยากเสียน้ำตากับดราม่าน้ำดี ดู Spencerอยากสัมผัสความโรแมนติกของเวลา ดู Anatomy of Time
รู้จักมีมแรกของโลกที่มีอายุกว่า100 ปี จุดเริ่มต้นอีกการสื่อสารของมนุษยชาติ
รู้จักมีมแรกของโลกที่มีอายุกว่าร้อยปี จุดเริ่มต้นอีกการสื่อสารของมนุษยชาติ หลายคนรู้จักมีมและเสพมันกันอยู่แล้วเพื่อความบันเทิง ไม่ก็ใช้เพื่อพูดคุยแบบสนุก ๆ กับเพื่อนและคนรอบตัว ไม่นานมานี้เพิ่งมีการค้นพบเรื่องราวที่เกี่ยวกับมีมไว้น่าสนใจมาก และคาดว่านี่อาจเป็นมีมแรกของโลก มีมนี้ถูกค้นพบจากในนิตยสารเสียดสี The Judge ฉบับปี 1921 จากผู้ใช้ Tumblr ที่ชื่อว่า Yesterday’s Print ที่สนใจหยิบสื่อสิ่งพิมพ์สมัยก่อนมาเผยแพร่ให้คนได้ดูและรู้จักกัน หลังปล่อยโพสต์ไปก็มีคนให้ความสนใจพูดถึงและถกเถียงกันว่านี่อาจเป็นมีมแรกหรือที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในตอนนี้ก่อนยุคอินเตอร์เน็ตด้วยซ้ำ ซึ่งนิตยสารฉบับนี้ตีพิมพ์โดยมหาวิทยาลัยไอโอวา (University of Iowa) หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยก็มีการนำมาสแกนเป็นไฟล์ดิจิตัลลงเผยเป็นแพร่ ส่วนเรื่องการคาดว่าเป็นน่าจะเป็นมีมที่เก่าแก่ที่สุด ถึงแม้จะมีเสียงแตกออกว่าอาจจะเป็นแค่การ์ตูน 2 ช่องธรรมดาก็ได้ แต่ก็มีคนที่แสดงความคิดเห็นว่ามันค่อนข้างมีความเป็นมีมอยู่เหมือนกันเพราะมันดูเหมือนดัดแปลงมาอีกที ยิ่งบวกกับใจความที่ต้องการจะสื่อระหว่างความคาดหวังกับความเป็นจริง (Expectations vs. Reality) ออกมาเป็น “What You Think You Look Like vs. What You Actually Look Like” นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ก็มีอายุกว่า 101 ปีแล้ว วัฒนธรรมของมีมที่ถูกนิยามมาตั้งแต่ 1976 โดย Richard Dawkins นักชีววิทยาวิวัฒนาการชาวอังกฤษจากงาน The Selfish Gene […]
รู้จัก Poon Lee กับผลงานถอดรหัสคำขวัญวันเด็กของไทย
: ทักทายกันหน่อยปุณณ์ – สวัสดีครับชื่อปุณณ์ครับ ชื่อจริงชื่อปุณณ์ ชื่อเล่นก็ชื่อปุณณ์ อายุ 25 ปีทำงานเป็น Information Designer ครับ : Information Designer ต่างกับ Designer ยังไง ปุณณ์ – คิดว่ามันเป็น Subset ของ Designer ครับเพราะว่ามันยังมีกลุ่มก้อนหลายอันอย่าง Fashion designer, Service designer แล้วก็ Information Designer เราจะเอาข้อมูลที่มีปริมาณมาก ๆ มาออกแบบชิ้นงาน : ปุณณ์นิยามงานของตัวเองว่าเป็นยังไงบ้าง ปุณณ์ – เราเป็นคนออกแบบเราไม่เคยรู้สไตล์ตัวเองเลย (หัวเราะ) เพราะเรารู้สึกว่า เรามักจะได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งของกับธรรมชาติรอบตัวอยู่แล้ว เช่น งานล่าสุดก็อยู่ในรูปแบบข้อสอบ งานก่อนหน้านั้นก็เป็นปฏิทิน แล้วก่อนหน้านั้นก็เป็นสมุดบันทึกอีก การออกแบบของเรามันเลยมักจะมาในรูปแบบของสิ่งของรอบตัว ส่วนโทนสีเราไม่รู้ตัวเลย พอมันทำมาตลอดมันน่าจะมาจากความชอบของเรา เราชอบอะไรที่เรียบ ๆ ดูง่ายอยู่แล้ว ดังนั้นงานภายนอกเราจะค่อนข้างเรียบแต่เราก็แบบใส่ดีเทลเล็ก ๆ […]
Name-Calling ให้การบูลลี่จบที่รุ่นเรา
‘ไอแว่น’ ‘เนิร์ด’ ‘ไอกะเทย’ ‘ไอตี๋’ ‘สลิ่ม’ ‘ไอสามกีบ’ เคยตั้งชื่อให้ใครเพื่อเรียกเค้าคนนั้นมั้ย โดยที่เจ้าตัวยังไม่ได้แสดงการยอมรับกับชื่อนั้นแต่ก็เรียกจนชิน รู้มั้ยว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของการบูลลี่ ตั้งแต่เรายังเด็ก หลายครั้งที่เรามักจะเจอการใช้ชื่อเรียกอื่นจากในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมาก ๆ มาตลอด อย่างในครอบครัว กลุ่มเพื่อน โรงเรียน จนมายันที่ทำงาน ไม่ว่าจะเรียกด้วยฉายา เรียกด้วยท่าทางที่คนนั้นแสดงออก หรือแม้แต่เรียกด้วยชื่อบุพการี สิ่งนี้เป็นสถานการณ์พฤติกรรมที่เกิดขึ้นที่แทบจะทุกคนแล้วต้องเคยเจอมาก่อน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะผ่านมันไปได้ยังมีอีกหลายคนที่ยังเจ็บปวดกับมัน ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องการถูกบูลลี่ให้กับหลายคนที่ได้รับความเจ็บปวดกับสิ่งนี้ อย่าง 2 ปีที่แล้ว ตอนปี 2563 บ้านเราขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกที่เป็นประเทศที่มีการบูลลี่บูลลี่ด้วยการใช้ตัวอักษรผ่านโซเชียลมีเดียมากที่สุดรองจากญี่ปุ่น จนมีเคสที่ต้องเข้ารักษาจิตใจ ยันเคสที่เลือกจากไปเพราะทนความเจ็บปวดจากการถูกบูลลี่ไม่ไหว สิ่งนี้สะท้อนให้เรากลับไปมองจุดเริ่มต้นว่าการบูลลี่มันเริ่มจากอะไร และเราจะหยุดมันได้ยังไง แม้ไม่ใช่คำด่าหรือการบูลลี่โดยตรงอย่างการล้อเลียนรูปลักษณ์ (Body shaming) ที่เราพยามยามรณรงค์มาตลอด แต่ Name-Calling หรือการตั้งชื่อและเรียกโดยที่คนที่เป็นเจ้าของตัวตนนั้นไม่ต้องการ หรือไม่ได้ยอมรับแสดงออกว่าให้เรียกได้ หลายคนเรียกใครด้วยชื่อที่ตัวเองคิดและตั้งให้จนชินแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่านี่ก็ถือเป็นการบูลลี่รูปแบบหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของการบูลลี่ด้วยซ้ำที่สร้างความเจ็บปวดจนทำให้คนที่โดนต้องรู้สึกลบกับตัวเอง รวมถึงรู้สึกว่ากำลังถูกตีตรา พอมองเรื่องนี้ตามแนวคิดที่อธิบายถึงลำดับขั้นของการโต้แย้งจากพีระมิดของ Pual Graham ก็พูดว่า Name-Calling (การเรียกด้วยฉายา) นี่แหละเป็นพื้นฐานของการแสดงพฤติกรรมผ่านคำพูดที่อยู่ระดับล่างสุด มันใช้ความคิดน้อยที่สุดด้วย แต่ผลของมันก็คือเป็นการแปะป้ายกับคนนั้น […]
ลิโด้แนะนำ Supergoodsband หนึ่งศิลปินนำร่องใน BUD LIVEHOUSE
ลิโด้แนะนำ Supergoodsband หนึ่งศิลปินนำร่องใน BUD LIVEHOUSE ที่รวมตัวกันด้วยความเชื่อที่จะทำบางและไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็นอะไร กับผลงานล่าสุด Jarr ซิงเกิลที่ร่วมงานกับ Houg ศิลปินเดี่ยวสิงคโปร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในที่จะสร้างวัฒนธรรมมันส์ ๆ แบบไลฟ์เฮ้าส์ไปด้วยกัน จัดไปเลยไลน์อัพที่จะเขย่าความสนุกของทุกคนกันยาว ๆ ทุกเดือน ตลอดปี 2022 แห่งแรกใจกลางสยาม ประเดิมครั้งแรกวันที่ 9 กุมพาพันธ์ Numcha / Supergoodsband / FORD TRIOและครั้งที่สอง วันที่ 23 กุมพาพันธ์ YEP MAY YEP / Yooze / Lord Liar Boots อย่าปล่อยสองปีที่ผ่านมาของศิลปิน ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ ไปซัพพอร์ตพวกเขากันที่ขอบเวที ร้องเพลงที่เขาเพิ่งปล่อยด้วยกัน มาช่วยลิโด้สร้างวัฒนธรรม LIVEHOUSE ด้วยกันเถอะ
มาคอนเสิร์ตได้ทุกเดือน ตลอดปี 2022 ที่ BUD LIVEHOUSE ไลฟ์เฮ้าส์แห่งแรกใจกลางสยาม
มาคอนเสิร์ตได้ทุกเดือน ตลอดปี 2022 ที่ BUD LIVEHOUSE ไลฟ์เฮ้าส์แห่งแรกใจกลางสยาม Be A Bud และ Lido Connect ร่วมสร้างวัฒนธรรมมัน ๆ ของการชมคอนเสิร์ตแบบไลฟ์เฮ้าส์ แห่งแรกใจกลางสยาม ในชื่อ BUD LIVEHOUSE ที่จะเขย่าความสนุกของคนชอบไปคอนเสิร์ตกันยาว ๆ ทุกสัปดาห์ ตลอดปี 2022 กับ 3 เหตุผลดี ๆ ที่จะทำให้ปี 2022 เป็นปีที่คอนเสิร์ตจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แล้วอย่าลืมกดติดตาม Lido Connect ไว้ ไม่พลาดคอนเสิร์ตแน่นอน ซื้อตั๋วรอบกุมภาได้เลยตั้งแต่วันนี้ที่ Ticketmelon รีบจับจองก่อนใคร บัตรมีจำนวนจำกัด
Quotidian Record บันทึกการเดินทางด้วย GPS ตลอด 1 ปี
ถ้าการเดินทางในชีวิตของคนเราแต่ละปี บันทึกเป็นเพลงได้ คิดว่ามันจะเพราะแค่ไหน Quotidian Record หรือ เสียงของทุกวัน เป็นบันทึกการเดินทางด้วย GPS ตลอด 1 ปี ของ Brian House ศิลปินมีเดียที่สนใจงานภูมิศาตร์และดนตรีทดลอง ได้สร้าง Soundtrack ชีวิตของตัวเองออกมาผ่านการเก็บข้อมูลสถานที่ที่ตัวเองไป เริ่มตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านไปทุกที่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะไปที่ทำงาน อพาร์ตเมนต์ของเพื่อน นอกเมือง ต่างประเทศ รวมถึงสถานที่โปรดของตัวเอง เฮ้าส์ได้เอามาเชื่อมเข้ากับโน้ตเพลงถอดออกมาเป็นเสียงลงไวนิล โดยการหมุนของแผ่น 1 รอบเท่ากับเวลา 1 วัน และ 1 ปี (365 วัน) ออกมาเป็นประมาณ 11 นาที กลายเป็นเพลงประกอบฉากชีวิตที่น่าฟังและมีคุณค่า ทำให้เราได้สัมผัสสิ่งที่เฮ้าส์เจอ ความสม่ำเสมอของการเดินทางผ่านภาพจินตนาการกับเสียงเพลง ผลงานนี้ถูกมองว่าเป็นศิลปะร่วมสมัยที่ผสมผสานระหว่างตัวตนของเฮ้าส์กับดนตรีสมัยนิยมได้ออกมาเป็นจังหวะที่พริ้วไหวสวยงาม จนถูกตีพิมพ์ใน TIME, The New York Times, WIRED รวมถึงจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดังอย่าง MoMA ในนิวยอร์ก, MOCA ลอสแองเจลิส และอีกหลายที่ในอเมริกา มาลองใช้เวลาไม่กี่นาทีซึมซับสุนทรียะเสียงจากชีวิตคนหนึ่งที่อยากถ่ายทอดให้กับเราได้สัมผัสความสวยงามของการเดินทางด้วยกัน https://bit.ly/3rjkIxC อ้างอิงhttps://bit.ly/3GxKh4jhttps://bit.ly/3rjkIxC
NIKSEN ศาสตร์แห่งความสุขจากชาวดัตช์
ใครที่เครียดกำลังมาก ลองวางทุกอย่างลงสักแป๊บหนึ่งแล้วใช้ Niksen ศาสตร์แห่งความสุขจากชาวดัตช์ดูด้วยการอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย หลายคนอาจสงสัยในเมื่อเรามีสิ่งที่ต้องทำอยู่ตลอด มีเรื่องในชีวิตให้คิด ทั้งเรื่องที่บ้าน เรื่องงาน ความรัก แล่นอยู่ในหัวเต็มไปหมดแล้วการให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรจะทำให้เสียเวลาหรือเปล่า คอนเซ็ปต์หลักของ Niksen (นิกเซน) เป็นการหยุดพักสั้น ๆ ช่วงขณะหนึ่งที่เราเปิดให้ตัวเองได้ลองกล้าวางจากทุกสิ่ง พักผ่อน สงบจิตใจลงด้วยการไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องมีเป้าหมายใด ๆ ทั้งสิ้น ปลดปล่อยความคิดและอารมณ์ของตัวเองซึ่งอาจจะเริ่มทำในช่วงแรกแค่ 1-2 นาทีก็ยังได้ Ruut Veenhoven นักสังคมวิทยาประจำมหาวิทยาลัย Erasmus Rotterdam ในเนเธอร์แลนด์ได้อธิบายว่า การทำนิกเซนจริง ๆ แล้วแค่นั่งบนเก้าอี้หรือมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง หรือแม้แต่ปล่อยให้ใจของเราล่องลอยไปช่วงหนึ่งก็ถือเป็นการพักผ่อนตามแนวคิดนิกเซนแล้ว นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าเราทุกคนควรจะมีช่วงเวลาที่พักผ่อนเป็นของตัวเองระหว่างวัน ซึ่งการทำนิกเซนสามารถทำร่วมกับกิจกรรมอื่นได้ด้วยหากกิจกรรมนั้นเป็นการทำอะไรอย่างบางที่ทำเรื่อย ๆ ทำซ้ำ ๆ เช่น นั่งเหม่อในสวนดูคนที่ผ่านไปมาแบบไม่คิดอะไร ถักไหมพรมแล้วปล่อยความคิด หรือแม้แต่ฟังเพลงแล้วปล่อยไหลไปเรื่อย ๆ สำหรับประโยชน์ของนิกเซน ถ้าเราทำได้ มันไม่ได้ทำให้เราขี้เกียจขึ้น แต่ตรงกับข้ามเลยนิกเซนช่วยกระตุ้นเราได้ดีในแง่ของการทำงานและลดระดับความเครียด เนื่องจากช่วงเวลาที่เราทำนิกเซนจะทำให้เราผ่อนคลาย ฟื้นฟูเราจากตารางชีวิตวุ่น ๆ สมองได้พักและเข้าสู้โหมดจัดเรียงความคิด ซึ่งช่วยกระตุ้นพลังและความคิดสร้างสรรค์เมื่อกลับมาทำงานหรือใช้ชีวิตต่ออีกครั้ง และช่วยเราเรื่องภาวะหมดไฟหรือ Burnout Syndrome […]
Weekly Lido Staff Pick!! 2💿
Weekly Lido Staff Pick!! 2 ถ้าไม่รู้ฟังเพลงไรดี ให้ลิโด้แนะนำ อัพเดตเพลงใหม่ ๆ ที่ควรมีติดเพลย์ลิตต์ไว้ มาให้ทุกคนลองฟัง Kindness Message – ถึงแม้ (REMEMBER) https://youtu.be/rHn1iPa7D8oPatrickananda – LAVENDER https://youtu.be/V69g4fo8oZ0SAMEPLACE – อาจจะพบคุณในวันพรุ่งนี้ https://youtu.be/r_ka978rPM8เรย์ แมคโดนัล – BAD ถั่ว https://youtu.be/mSzA9EZMm0cANYSIDE – ฤดูผลิบาน https://youtu.be/9kH6HcofNcILANDOKMAI – สุขสันต์วันสุดท้าย feat. Whal & Dolph https://youtu.be/il5SJW-nW58No One Else – เคยคิดถึงฉันไหมในตอนที่ https://youtu.be/dFphAeuU1x4 ชอบเพลงไหน อย่าลืมตามไปฟังเพลงอื่น ๆ ด้วยมาช่วยกันทำให้ซีนดนตรียังรันต่อไปได้ด้วยการฟังเพลงของพวกเขากันเยอะ ๆ