เราไม่อดทน หรือแค่กล้าออกมาเมื่อรู้ตัวเอง
เด็กสมัยนี้ไม่อดทนหรือกล้าที่จะออกมาจากสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าควรล้มเลิก หนึ่งในเรื่องที่เราเจอเยอะมากในตอนนี้ เพื่อนรอบตัวจำนวนไม่น้อย กำลังตั้งคำถามกับสิ่งตัวเองอดทนอยู่ และความรู้สึกหลงทางในการค้นพบตัวเอง ไม่แน่ใจว่าตัวเองทำอะไรได้ดีหรือสิ่งที่ชอบจะทำให้เลี้ยงตัวเองและเป็นทุนสำรองในชีวิตให้รู้สึกปลอดภัยได้ยังไง การทำงาน สถานการณ์ครอบครัว และสภาพสังคม เป็นตัวหลักที่หลอมรวมความหนักอึ้งของความรู้สึกที่สับสนกับตัวเอง เมื่อต้องอยู่ในจุดที่ตัดสินใจเลือกในแต่ละทาง อดทนกับงานที่ตัวเองหมดไฟเพื่อเลี้ยงปากท้อง อยู่ในอำนาจของผู้ใหญ่ในบ้านเพื่อแสดงความกตัญญู ใช้ชีวิตอย่างปกติในเมืองโดยที่ปล่อยให้สิทธิพื้นฐานโดนกัดกิน หรือกล้าหาญที่จะออกมา ในสายตาของคนที่อยู่มาก่อน การล้มเลิกส่วนใหญ่ถูกมองเป็นการขบถและการยอมแพ้ ถูกมองว่าเราไม่อดทน ปรับตัวไม่ได้กับสภาพแวดล้อมสังคมที่เป็นชีวิตจริงในแบบผู้ใหญ่ การตัดสินก้าวออกมาจากสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าไม่ทนอีกต่อไปมักถูกเสียงไล่หลังว่า นี่แหละเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักอดทน มันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ถ้าเราบอกว่าไม่ใช่ แต่มันคือความกล้าหาญที่จะมีพื้นที่ให้ได้ค้นหาและรักตัวเอง สำหรับทุกการล้มเลิกที่กำลังหาเส้นทางเริ่มต้นใหม่ต่างหาก คิดยังไง ทำไมเราถึงพูดว่ามันคือความกล้าหาญ เพราะทุกเสียงจากเรื่องที่เราได้ฟัง การล้มเลิกต้องใช้ความกล้าอย่างที่สุดในการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะเดินออกมาจากที่เดิมที่คุ้นเคย สุดท้ายการพูดว่าการล้มเลิกคือการถอดใจ การอดทนเป็นของคนชนะเท่านั้น มันอาจจะไม่ใช่ คำพูดนี้สร้างวัฒนธรรมการอดทนอดกลั้นที่น่ากลัว ทุกคนมีปลายทางที่สำเร็จได้จากการรู้ว่าอะไรที่สิ่งที่ใช่กับตัวเอง ดังนั้น ไม่ใช่ไม่อดทนไม่ทน แต่เราไม่ทรยศความรู้สึกตัวเอง
Hoarding Disorder โรคชอบเก็บของจะทิ้งก็เสียดาย ได้แต่เก็บไว้
ผ่านมากี่ปี ของในห้อง ของในบ้านที่กองสุมไว้เยอะขึ้นกว่าเดิมแค่ไหนแล้ว สงกรานต์หยุดยาวนี้มีแผนจะกลับไปเคลียร์ไหม หรือมองว่านั่นคือของที่ไม่กล้าทิ้ง 🚮 Hoarding Disorder คำนิยามถึงคนที่ชอบเก็บของไม่ยอมทิ้งอะไรว่าเป็นโรคทางจิตเวทอย่างหนึ่ง จากจุดเริ่มต้นเป็นคนสะสมของที่ตัวเองรัก สนใจ จนกินพื้นที่อาศัยของตัวเองเรื่อย ๆ ไปสู่การเริ่มเก็บสะสมสิ่งอื่นตามด้วยเหมือนกันและไม่กล้าทิ้ง น่าติดตาม รายงานศึกษามองว่าพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นเยอะในคนที่สูงอายุ แต่คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะวัยกลางคนจำนวนมากก็อาจกำลังเผชิญกับการเป็นโรคนี้ด้วยเหมือนกันจากการสะสมของที่ตัวเองช้อป ใช้เงินจับจ่ายมา แล้วไม่กล้าเก็บแพคเกจทิ้งหรือเคลียร์ทำความสะอาด นอกจากนี้ในขั้นรุนแรงของ Hoarding Disorder ก็จะเริ่มกลายเป็นเก็บของทั่วไป ของที่ไม่มีมูลค่า เศษกระดาษ ขยะต่าง ๆ ไปจนสัตว์มีชีวิตด้วย จากนั้นจะรู้สึกอยากใช้เวลาอยู่แค่กับพื้นที่นี้ เริ่มเลี่ยงแสง และปลีกตัวอยู่คนเดียวกับของที่เก็บไม่อยากพบปะใคร จิตแพทย์มองว่ามันคือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับโรควิตกกังวล โรคสมาธิสั้น โรคย้ำคิดย้ำทำ หรือโรคซึมเศร้า ดังนั้นการแก้ไขและรักษามีวิธีที่ดีสุดคือการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัย กินยา และทำแผนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ถ้าเริ่มสังเกตว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวจะเป็น Hoarding Disorder ก็อยากให้คุยกันนะว่ามันอันตราย มีผลกระทบกับสุขภาพแน่นอนด้วยเชื้อโรคจากของที่สะสม แล้วชวนไปคุยเพื่อวางแผนรักษาหรือจิตแพทย์นะ
ทำงานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จะเอาเวลาไหนมาเดท
ทำงานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จะเอาเวลาไหนมาเดท ยิ่งโต งานยิ่งเยอะ ความรับผิดชอบกับงานต่าง ๆ ทุกวันหมดไปกับการทำงานและเหนื่อยล้า ถ้ายิ่งโสดด้วยบางทีก็มีเคว้ง นี่เป็นปรากฎการณ์ของคนรุ่นใหม่จาก Waithood ที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตและการเมือง การจะให้ใครจะสักคนเข้ามาอยู่ในชีวิตของคนวัยทำงาน อย่างหนึ่งจากตัวเอง เราก็สบายใจกว่าถ้ามีความพร้อมระดับหนึ่ง มีเงินใช้จ่ายเพื่อการเดทที่สะดวกสบายได้ ในเมื่อที่เดทดี ๆ ที่ฟรีมีน้อย รายได้ต้องพอซื้อสถานที่ที่ดี ของขวัญ กินของดี ๆ ได้ สิ่งนี้ก็ผูกกับการทำงานที่ทุ่มเทให้ได้เงินมากขึ้น แต่แล้วเวลาทีเหลือจากการทำงานก็ลดลงไปอีกที่จะไปสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ กลายเป็นว่าตัวช่วยที่มองเห็นก็เป็นแอปฯ หาคู่ ในเมื่อกว่าจะเลิกงาน มีเวลาไปเจอใคร เดินทางอีกการคุยกันในแอปฯ ให้โอเค แล้วมาเจอกันช่วงเย็นหรือวันหยุดที่ตรงกันอาจจะง่ายกว่า แต่มันมีประสิทธิภาพแค่ไหนกับคนที่มองหาความสัมพันธ์แบบจริงจังเพราะพื้นที่นี้ทุกคนต่างมีตัวเลือก ในขณะที่เพื่อนอีกหลายคนที่ไม่เลือกที่ใช้แอปฯ หรือเหนื่อยกับมันแล้ว การจะหาใครก็ใช้การรอจังหวะ การได้รู้จักแทน จากเพื่อนของเพื่อนหรือวงสังคมใหม่บ้าง แต่รูปแบบนี้ก็ใช้เวลา แล้วการที่จะมีแพลนเดทช้า ๆ ค่อย ๆ คุยทำความรู้จัก ซัพพอร์ตกันจากงาน ก็มีทั้งคู่ที่ประสบความสำเร็จ และคู่ที่ติดหล่มอยู่ในความคลุมเครืออีก รู้สึกว่าเรื่องนี้มันยากจริง ๆ แล้วรอบตัวเพื่อนทำงานที่โสดเหมือนกันก็ยังอยู่วังวนนี้ อยากชวนคุยว่าตอนนี้มีใครกำลังเจอเหมือนกันบ้าง หรือไม่มีปัญหาก็คุยและคบไปพร้อมกับทำงานได้ จัดการเวลายังไง ใช้วิธีแบบไหน แชร์หน่อย […]
ไม่พัก โลกโลกสงสัยยานแม่
ม่พัก โลกโลกสงสัยยานแม่ เอเลี่ยนแฝงตัวแกล้งเป็นอุกกาบาตมาสำรวจรึเปล่า ยังจำดาวหางโอมูอามูอาได้อยู่ไหม ตอนนี้นักฟิสิกส์กำลังวิเคราะห์มันคู่กับอุกกาบาตที่ตกในโลกปาปัวกินีกับเพนดากอน ดร.โลบ (Avi Loeb) จากฮาร์วาร์ดเลยลงทุนไปปาปัวกินีกับเพนดากอน เพื่อสำรวจซากอุกกาบาตว่ามันอาจเป็นยานแม่แฝงตัวมา จากเมื่อห้าปีก่อนที่โอมูอามูอามาเฉียดโลก มาถึงตอนนี้มีข้อสงสัยจากวิเคราะห์ที่น่าคิดด้วยกันว่ามันแปลกด้วยก๊าซที่ห่อหุ้มมัน ความแข็ง และการโคจรก็ไม่คงที่มีเร่งความเร็ว เลยคิดว่าอาจเป็นยานแบบเทคโนโลยีจากต่างดาวรึเปล่า ไม่ปกติสุด ๆ รอตามต่อว่าตกลงยังไง หลังเอาชิ้นส่วนที่ลงสำรวจปาปัวกินีไปวิเคราะห์ ตอนนี้ก็ยังเถียงกันอยู่ว่าโอมูอามูอาจะเป็นเศษดาวเคราะห์หรือยานแม่แฝงตัวมาส่องเรา #กูรูกูรู้#โอมูอามูอา#มนุษย์ต่างดาว#GURUGUROO#LIDOCONNECT
เดทแรก เลี้ยงข้าว VS แชร์กัน ? เมื่อความเป็นเพศแฝงอำนาจในความสัมพันธ์
เดทแรก เลี้ยงข้าว VS แชร์กัน ? 💏 ถึงที่ผ่านมาระบบอำนาจและระบบความเชื่อในโลกธุรกิจยังแฝงด้วยมุมมองเรื่องเพศ และผูกติดอยู่กับแนวคิดชายเป็นศูนย์กลาง (Androcentric) เพราะคำว่าสุภาพบุรุษที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยที่ทำให้เกิดชุดความคิดของที่คาดหวังการเป็นดูแลอีกฝ่าย ทำให้ผู้หญิงและคนที่มีความหลากทางเพศถูกมองว่ามีอำนาจน้อยกว่าในที่สาธารณะ และความสัมพันธ์ ย้อนกลับไปใกล้ ๆ ที่มีผลสำรวจเมื่อสองปีก่อนความเชื่อที่ว่าเดทแรกผู้ชายควรเป็นคนจ่ายก็ยังสูง 78% แล้วเป็นฝั่งผู้ชายที่เชื่อเองด้วย เพราะไม่อยากรู้สึกผิด รวมถึงรู้สึกว่ามันเป็นวิธีการที่จะปกป้องและแสดงความมีน้ำใจกับอีกฝ่าย แต่ถึงตอนนี้ที่เราตระหนักในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ มันก็ทลายความเชื่อเดิม เพศไหนก็หารายได้และมีอาชีพเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้น นอกเหนือจากการตกลงแชร์ค่าใช้จ่ายอย่างเท่า ๆ กันเวลาออกเดทที่ถูกมองว่าแฟร์ที่สุดกับทั้งสองฝ่าย มันก็อาจจะเป็นความเต็มใจของฝ่ายหนึ่งที่อยากจะซัพพอร์ตในเดทนั้น เรามองว่าเรื่องนี้คุยกันต่อได้ เพื่อนแต่ละคนคิดยังไงบ้าง
Rollercoaster Relation(shit) ความสัมพันธ์สุขสุด เศร้าสุดเหมือนรถไฟเหาะ
เลี้ยงเราไว้ในความสัมพันธ์ แล้วถึงจุดหนึ่งเธอก็ทิ้งมัน 🔪💔 ใครเจออยู่บ้างมีช่วงที่รู้สึกสุขสุดกับความสัมพันธ์ไปได้ดี แต่แล้วอยู่ ๆ บางก็รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว ดาวน์มากตอนที่อีกคนหายไปก่อนที่เขาจะกลับมาหาเราใหม่ ทำไมเรารู้สึกเหมือนโดนเล่นกับความรู้สึก เรากำลังเจอ Rollercoaster Relationship อยู่ จริง ๆ รูปแบบความสัมพันธ์นี้มีหลายระดับและแทรกอยู่ในแต่ละรูปแบบความสัมพันธ์ด้วย อย่างความสัมพันธ์ที่ยังไม่มีชื่อเรียก ไม่ได้ตกลงกันก็อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ระยะที่เราคิดว่ามันคือการเป็นคุย เมื่ออีกคนมีเวลาที่เฟดไปจากเราและเขาอาจะมีตัวเลือกในความสัมพันธ์ สุดท้ายเขาก็เล่นกับใจเรา มีช่วงเดท มีเซ็กส์ ให้เรารู้สึกรักแล้วปล่อยเราไว้มาหาเราเป็นระยะให้เราเหงา เศร้า และตั้งคำถามกับตัวเอง เหมือนเลี้ยงเราเป็นแฮมสเตอร์ไว้ในกรง หรืออีกแบบที่ความพันธ์แบบนี้อยู่ในคู่ในคบกันแล้วก้เหมือนเกมเลยอะ อีกฝ่ายขยันเล่นกับความรู้สึก อารมณ์ขึ้นลง ดีสุด ใจดีสุดไปพร้อมกับก็ใจร้าย ทิ่มแทงกันสุด ๆ ด้วย ซึ่งมันมีความ Toxic ประมาณหนึ่งเลยที่ในความสัมพันธ์มีความไม่มั่นคงทางอารมณ์ มองดูแล้วแบบไหนก็มีความเจ็บปวด เราคิดว่าในทุกวันนี้ที่การสร้างความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องยากโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เพื่อนอาจจะกำลังเจออยู่ไหม แล้วกับมันตอนนี้เป็นยังไง
หรือเมื่อหลายพันปีก่อน โลกเรามีอิโมจิจากอักษรอียิปต์โบราณ
หรือเมื่อหลายพันปีก่อน โลกเรามีอิโมจิจากอักษรอียิปต์โบราณ ประวัติศาสตร์ความเฟื่องฟูของการใช้อิโมจิในโลกเกิดขึ้นตอนที่อิโมจิก็ได้ปรากฎตัวครั้งแรกบนโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่น ช่วงปลายปี 90 จนทุกคนใช้กันแหลกลานมาถึงทุกวันนี้ มีข้อสงสัยว่าไฮเออโรกลีฟอียิปต์หรืออักษณโบราณที่ชาวอียิปต์ไว้ใช้เล่าเรื่องราวแทนคำพูดบนผนังที่สงวนไว้ใช้แค่กับตำราราชวงศ์เท่านั้น อาจจะเป็นต้นกำเนิดของไอเดียอิโมจิหรือเปล่า เรื่องนี้ถูกพูดถึงเล็ก ๆ ในสารคดีของ Netflix เออแล้วเราลองคิดตามมันก็น่าสนใจนะ เพราะในอดีตยุคที่ยังไม่มีตัวอักษาเป็นพยัญชนะหรืออักขระชัดเจน ภาพจิ๋ว ๆ พวกนี้มันก้ทำงานแสดงอริยบถเป็นเครื่องมือสื่อสารในตอนนั้น อิโมจิกลายเป็นภาษาสากลไปแล้ว สื่อสารกับทุกความสัมพันธ์ แถมใช้ได้หลายบริบทจะแสดงอารมณ์ ความขต้องการ ข้อร้องก็ได้หมด แอบคิดเล่น ๆ ว่า ถ้าวันข้างหน้า อิโมจิ กลายเป็นภาษาเดียวที่โลกเรามี คิดว่าจะคุยกันรู้เรื่องไหม เราว่าน่าจะปั่นน่าดู #กูรูกูรู้ #อิโมจิ #GURUGUROO #LIDOCONNECT
ทำงานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จะเอาเวลาไหนมาเดท
ทำงานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จะเอาเวลาไหนมาเดท 🧑🏻❤️👩🏼 ยิ่งโต งานยิ่งเยอะ ความรับผิดชอบกับงานต่าง ๆ ทุกวันหมดไปกับการทำงานและเหนื่อยล้า ถ้ายิ่งโสดด้วยบางทีก็มีเคว้ง นี่เป็นปรากฎการณ์ของคนรุ่นใหม่จาก Waithood ที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตและการเมือง การจะให้ใครจะสักคนเข้ามาอยู่ในชีวิตของคนวัยทำงาน อย่างหนึ่งจากตัวเอง เราก็สบายใจกว่าถ้ามีความพร้อมระดับหนึ่ง มีเงินใช้จ่ายเพื่อการเดทที่สะดวกสบายได้ ในเมื่อที่เดทดี ๆ ที่ฟรีมีน้อย รายได้ต้องพอซื้อสถานที่ที่ดี ของขวัญ กินของดี ๆ ได้ สิ่งนี้ก็ผูกกับการทำงานที่ทุ่มเทให้ได้เงินมากขึ้น แต่แล้วเวลาทีเหลือจากการทำงานก็ลดลงไปอีกที่จะไปสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ กลายเป็นว่าตัวช่วยที่มองเห็นก็เป็นแอปฯ หาคู่ ในเมื่อกว่าจะเลิกงาน มีเวลาไปเจอใคร เดินทางอีกการคุยกันในแอปฯ ให้โอเค แล้วมาเจอกันช่วงเย็นหรือวันหยุดที่ตรงกันอาจจะง่ายกว่า แต่มันมีประสิทธิภาพแค่ไหนกับคนที่มองหาความสัมพันธ์แบบจริงจังเพราะพื้นที่นี้ทุกคนต่างมีตัวเลือก ในขณะที่เพื่อนอีกหลายคนที่ไม่เลือกที่ใช้แอปฯ หรือเหนื่อยกับมันแล้ว การจะหาใครก็ใช้การรอจังหวะ การได้รู้จักแทน จากเพื่อนของเพื่อนหรือวงสังคมใหม่บ้าง แต่รูปแบบนี้ก็ใช้เวลา แล้วการที่จะมีแพลนเดทช้า ๆ ค่อย ๆ คุยทำความรู้จัก ซัพพอร์ตกันจากงาน ก็มีทั้งคู่ที่ประสบความสำเร็จ และคู่ที่ติดหล่มอยู่ในความคลุมเครืออีก รู้สึกว่าเรื่องนี้มันยากจริง ๆ แล้วรอบตัวเพื่อนทำงานที่โสดเหมือนกันก็ยังอยู่วังวนนี้ อยากชวนคุยว่าตอนนี้มีใครกำลังเจอเหมือนกันบ้าง หรือไม่มีปัญหาก็คุยและคบไปพร้อมกับทำงานได้ จัดการเวลายังไง ใช้วิธีแบบไหน […]
ช่วงนี้กลับมาอินกับการเมือง ใกล้เลือกตั้งแล้วด้วย เลยนึกถึง Common Sense เล่มนี้
ช่วงนี้กลับมาอินกับการเมือง ใกล้เลือกตั้งแล้วด้วย เลยนึกถึงเล่ม Common Sense เล่มนี้เป็นพิเศษสำหรับทุกคนที่เชื่อว่าการพัฒนาทั้งหมดมันเริ่มจากโครงสร้างสังคมและการปกครอง เนื้อหาข้างในไม่ใช่แค่พาเราตั้งคำถาม เรียกว่าเป็นการกระตุกคิดเลยกับผลประโยชน์ สิทธิ เสรีภาพที่เราควรต้องได้รับในฐานะที่เราเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศ เนื้อหาเคี้ยวยากกลาง ๆ แต่สนุกนะเราจะได้เกร็ดประวัติศาสตร์การเมืองเยอะมากด้วย ชอบสุดก็ประโยคเด็ด ๆ เจ็บ ๆ ในนี้เยอะจัด (หัวเราะ) อ่านแล้วแสบอยู่ รอบนี้อ่านซ้ำก็ได้อะไรใหม่ด้วย สำหรับคนที่สนใจเรื่องการเมืองอยู่แล้วหลายคนมีเล่มนี้อยู่ในชั้นแน่นอน สำหรับเพื่อนอีกหลายคนที่อยากเริ่มลองอ่าน มีความสนใจกับการเมือง การปกครอง อำนาจ แนะนำต้องมีเก็บเข้ากองของตัวเองจริง ๆ นะ Common Sense สามัญสำนึกThomas Paine เขียนภัควดี วีระภาสพวษ์ แปลธเนศ อาภรณ์สุวรรณ บทนำปราบดา หยุ่น บทตามสำนักพิมพ์บุ๊คสเคป
POLYAMORY ผิดไหมที่รักหลายคนพร้อมกัน
ผิดไหมที่รักหลายคนพร้อมกัน 💑💏 เราจะเห็นความสัมพันธ์แบบนี้อยู่บ่อย ๆ ในต่างประเทศ อย่างหนังหรือซีรีส์วัยรุ่นที่ตัวละครรักกันหลายคน และมีรสนิยมทางเพศที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือความสัมพันธ์แบบ Polyamory และในบ้านเรามีบ้าง มันคือการที่เราดีลเป็นแฟนกันมากกว่าหนึ่งคน โดยที่ทุกคนรู้สึกดีกันหมด ไม่ติดเรื่องเพศใด ๆ และคบกันแบบเปิดเผย จะแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ไม่ติด อย่างข่าวของ Una Healy นักร้องสาววง The Saturday จากอังกฤษ เธอออกมาพูดเป็นนัย ๆ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์แบบ Polyamory กับ David Haye (นักมวย) และ Sian Osborne (นางแบบ) แล้วนางก็ดูแฮปปี้กับความสัมพันธ์แบบนี้มาก ๆ ซึ่ง Polyamory มันต่างจากความสัมพันธ์แบบเปิด (Open Relationship) ที่เรามีแฟนแค่คนเดียวแล้วดีลกับแฟนว่าใครคนใดคนหนึ่งสามารถมีเซ็กส์กับคนอื่นได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามพัฒนาความสัมพันธ์เด็ดขาด จริง ๆ แล้วไม่ผิดเลยที่จะรักหลายคนในเวลาเดียวกัน เพราะมันขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบด้วย แล้วที่สำคัญต้องคุยกันตกลงกันให้ดีว่า เธอและเธอและเธอ อยากมีความสัมพันธ์แบบไหน อย่าลืมว่าต้องยินยอมกันทุกฝ่ายนะ